ทั้งนี้ ช่วงที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้ครบกำหนดไถ่ถอนสูงสุด จะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ปีนี้ โดยอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ เหมืองถ่านหิน การซื้อขายเหล็ก จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
ในบรรดาผลิตภัณฑ์ทรัสต์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้ ประมาณ 1.4 ล้านล้านหยวน จะมาจากภาคธุรกิจก่อสร้างตามโครงการสาธารณูปโภค, 6.335 แสนล้านหยวนจะมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ และ 1.7 ล้านล้านหยวนจะมาจากผลิตภัณฑ์ทรัสต์ของภาคเอกชนในภาคอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทรัสต์ของกลุ่มเหมืองแร่ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 1 หมื่นล้านหยวน
ก่อนหน้านี้ บริษัท ไชน่า เครดิต ทรัสต์ โค ได้เตือนนักลงทุนว่า บริษัทอาจจะชำระเงินซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 31 ม.ค. ไม่ทันตามกำหนด โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคิดเป็นวงเงิน 3 พันล้านหยวนที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทผู้ผลิตถ่านหินในภาคเหนือของมณฑลส่านซีของจีนที่ติดหนี้อยู่
แต่ในที่สุด นักลงทุนในผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อคือทอง" ของไชน่า เครดิต ทรัสต์ ก็ได้รับเงินลงทุนคืนหลังจากนักลงทุนที่ไม่เปิดเผยรายชื่อรายหนึ่งเข้ามาซื้อทรัพย์สินดังกล่าว โดยที่ยังไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยแต่อย่างใด สำนักข่าวซินหัวรายงาน