ผู้เชี่ยวชาญชี้ราคาน้ำมันอาจปรับตัวลดลงหากสหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 1, 2014 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไคล์ ไอซาโกเวอร์ รองประธานฝ่ายกฎระเบียบและนโยบายเศรษฐกิจของการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ว่า ผลการศึกษาล่าสุดพบว่า การยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันดิบที่บังคับใช้มากว่า 30 ปีของสหรั ฐจะส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงและเป็นผลดีต่อผู้บริโภคภายในประเทศ

เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า การส่งออกน้ำมันยังต่างประเทศอาจจะส่งผลให้ราคาภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ผลการศึกษาซึ่ง API ได้ว่าจ้างให้ดำเนินการพบว่า การส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐถือเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสำหรับผู้บริโภค

“ผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับประโยชน์จากการค้าเสรี ซึ่งรวมไปถึงน้ำมันดิบ เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเบนซินอิงกับตลาดโลกและผลการศึกษานี้ก็บ่งชี้ว่า การส่งออกเพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มอุปทาน, เพิ่มแรงกดดันด้านราคาต่อสถานีบริการ และสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นในสหรัฐ"

ผลการศึกษาล่าสุดซึ่งดำเนินการโดยไอซีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล และ EnSys Energy ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาพบว่า การส่งออกจะช่วยให้ต้นทุนน้ำมันเบนซิน, ฮีทติ้ง ออยล์ และน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง โดยช่วยให้ชาวอเมริกันประหยัดได้มากถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในระหว่างปี 2558-2578 ขณะที่ราคาอาจจะลดลงมากถึง 3.8 เซนต์ ต่อแกลลอนในปี 2560 และลดลงโดยเฉลี่ยถึง 2.3 เซนต์ต่อแกลลอนในระหว่างปี 2558-2578

ผลการศึกษาดังกล่าวพบว่า การยกเลิกคำสั่งห้ามอาจสร้างตำแหน่งงานเพิ่มมากถึง 300,000 ตำแหน่งในปี 2563 และเพิ่มมูลค่าให้กับระบบเศรษฐกิจของสหรัฐมากถึง 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมไปถึงลดยอดขาดดุลการค้าของประเทศ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีดังกล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐมีคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันดิบในทศวรรษที่ 1970 ยกเว้นการส่งออกน้ำมันในปริมาณเล็กน้อยจากแคลิฟอร์เนีย อลาสกา และการขายให้กับแคนาดา

แต่หลังจากปี 2551 สหรัฐได้มีการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาน้ำมันและแก็สซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากการบดหินที่มีความหนาแน่นสูงด้วยไฮโดรลิค ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการผลิตแก็สจากชั้นหิน สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ