กลุ่มผู้นำการชุมนุมระบุว่า พนักงานภาครัฐ 20,000 คนจากโรงเรียนรัฐ, โรงพยาบาล, สายการบิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมตัวกันประท้วงในปารีสเป็นเวลา 1 วัน โดยกระทรวงมหาดไทยนับจำนวนผู้ประท้วงในกรุงปารีสได้ 10,000 คน
ขณะที่ในเมืองมาร์แซย์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฝรั่งเศส พนักงานภาครัฐรวมตัวกันหยุดงานจำนวน 31,000 คน และในเมืองตูลูซก็มีผู้เดินขบวนไปตามถนนสายต่างๆเพื่อประท้วงเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงร่วม 10,000 คน
การประท้วงดังกล่าวส่งผลต่อการจราจรทางอากาศทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 100 สาย ขณะที่เที่ยวบินอื่นๆทั้งขาเข้า และขาออกจากท่าอากาศยานในฝรั่งเศสจำต้องเลื่อนการเดินทางออกไป ซึ่งได้แก่ท่าอากาศยานรอยส์ซี่, ออร์ลีย์, ตูลูซ, มาร์แซย์ และนีซ
สายการบินแอร์ ฟรานซ์ของฝรั่งเศสเผยว่า เที่ยวบินจำนวน 115 สายซึ่งส่วนมากมาจากสนามบินออร์ลีย์และมีปลายทางอยู่ที่ตอนใต้ของมาร์แซย์ และนีซ ถูกยกเลิกเนื่องจากการประท้วงดังกล่าว
สหภาพแรงงาน CGT คาดการณ์ว่า ประชาชน 300,000 คนจะร่วมการชุมนุนในการประท้วง 110 กลุ่มที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ภายใต้แรงกดดันเพื่อลดค่าใช้จ่าย และการคำนึงถึงขอบเขตการขาดดุลได้ไม่เกิน 3% ตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป สหภาพแรงงาน CGT จึงปฏิเสธที่จะยกเลิกมาตรการคงค่าแรงสำหรับพนักงานในภาครัฐที่โดยอดีตประธานาธิบดี นิโคลัส ซาร์โกซีกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2553
แมรี่ลิส เลอบรานชู รัฐมนตรีกระทรวงบริการสาธารณะ ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุฟรานซ์ อิโฟว่า "เราจะปรับขึ้นค่าแรงได้ก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น หากการเติบโตเป็นศูนย์เราก็ไม่สามารถยกเลิกมาตรการตรึงค่าแรง"