ทั้งนี้ ADB เปิดเผยรายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชียประจำปี 2558 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะยังคงขยายตัวอย่าง "แข็งแกร่งทั้งในปี 2558 และ 2559" หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในปี 2557
"ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงกำลังส่งผลให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายทั่วภูมิภาคปรับลดการให้เงินอุดหนุนด้านเชื้อเพลิง หรือริเริ่มการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอื่นๆ นี่เป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างกรอบการทำงานที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นายซาง-จิน เหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าว และเพิ่มเติมว่า "กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียมีอิทธิพลอย่างมากต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก"
ADB คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียจะแซงหน้าจีน เนื่องจากการที่รัฐบาลเริ่มพยายามขจัดอุปสรรคเชิงโครงสร้างนั้น ช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
"ด้วยปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น เศรษฐกิจอินเดียจึงมีแนวโน้มขยายตัว 7.8% ในปีงบประมาณ 2558 (ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2559) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากอัตรา 7.4% ในปี 2557 โดยคาดว่าแนวโน้มการเติบโตเช่นนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจมีการขยายตัว 8.2% ในปีงบประมาณ 2559 เพราะได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการใช้จ่ายด้านทุนที่กระเตื้องขึ้น" รายงานของ ADB ระบุ
นอกจากนี้ รายงานของ ADB ยังระบุถึงความเสี่ยงที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จีนจะดำเนิการอย่างผิดพลาดในช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เข้าสู่ "ดุลยภาพใหม่", การดำเนินการปฏิรูปในอินเดียที่มีความจริงจังน้อยกว่าที่คาด, ผลกระทบของวิกฤตหนี้กรีซที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก และภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในรัสเซีย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน