บรรดารัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก 40 ประเทศได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดยูเรเซียน อิโคโนมี ซัมมัท ครั้งที่ 18 ซึ่งมีหัวข้อการประชุมพิเศษคือ "An Economic Bridge: Silk Road." (สะพานเชื่อมเศรษฐกิจ: เส้นทางสายไหม)
นายหวัง ยี่เหว่ย สมาชิกอาวุโสของมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีน เปิดเผยว่า เส้นทางสายไหมสมัยใหม่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงจากยุคโลกาภิวัฒน์ที่มีตะวันตกเป็นศูนย์กลาง สู่โลกาภิวัฒน์ที่ครอบคลุม เนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดกว้างสำหรับทุกประเทศ
นายวาซิป ซาฮิน ผู้ว่าการกรุงอิสตัลบูล ยังได้เน้นย้ำว่าโครงการเส้นทางสายไหมแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่มีอยู่มากมาย
นายซาฮินเปิดเผยถึงการสนับสนุนของตุรกีต่อโครงการนี้ว่า ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์และความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของตุรกี มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพลิกฟื้นเส้นทางสายไหม
ในระหว่างการประชุมซึ่งจัดเป็นเวลา 2 วัน ผู้ร่วมประชุมยังจะได้หารือกันเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสในภาคการรสื่อสาร คมนาคม พลังงานและการเงินด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน