นางปาร์คกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า วิกฤตโรคเมอร์สไม่ควรเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวลง พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยไม่วิตกกังวลมากจนเกินไป เนื่องจากโรคดังกล่าวสามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อเมอร์สเพิ่มขึ้นเป็น 95 รายแล้วจนถึงวันนี้ นับตั้งแต่มีรายงานกรณีการติดเชื้อครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พ.ค. โดยประชาชนต่างหยุดทำกิจกรรมนอกบ้านเนื่องจากกลัวการติดโรคเมอร์ส และนักท่องเที่ยวบางส่วนโดยเฉพาะจากจีน ได้ยกเลิกแผนเดินทางท่องเที่ยวเกาหลีใต้
สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดความวิตกว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแรงอยู่แล้ว อาจจะชะลอตัวลงยิ่งขึ้นเนื่องจากผลกระทบด้านลบจากโรคเมอร์ส
ส่วนยอดส่งออกของเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจ บ่งชี้แนวโน้มช่วงขาลงในปีนี้ โดยยอดส่งออกร่วงลงติดต่อกันจาก 0.9% ในเดือนม.ค. แตะ 3.3% ในเดือนก.พ. 4.3% ในเดือนมี.ค. 8.1% ในเดือนเม.ย. และทรุดฮวบลง 10.9% ในเดือนพ.ค.
ด้านการผลิตในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 0% เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าส่วนลดรายใหญ่หลายราย ส่งสัญญาณลบเกี่ยวกับยอดขายสินค้า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดของโรคเมอร์ส
ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวว่า หากสถานการณ์ดังกล่าวดำเนินต่อไป ภาวะทางเศรษฐกิจสำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกจ้าง อาจจะย่ำแย่ลงอีก ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ "มาตรการเชิงรุกทั้งหมดที่มีอยู่" เพื่อลดผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจจากโรคเมอร์ส ให้เหลือน้อยที่สุด สำนักข่าวซินหัวรายงาน