ขณะเดียวกัน คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะร่วงแตะระดับ 12% ในปีหน้า จากระดับ 26.7% ที่คาดการณ์สำหรับปีนี้
อย่างไรก็ดี หากอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ คาดว่าเศรษฐกิจยูเครนจะหดตัวลง 0.3% ในปีหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 14.7%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูเครนหดตัวลง 6.8% ในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าปีนี้จะหดตัวลง 5.5%
นางนาตาลี จาเรสโก รมว.คลังยูเครน จะเดินทางไปยังนครซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ในวันพุธนี้ โดยจะพบปะกับคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยประเทศเจ้าหนี้ของยูเครน เพื่อทำข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้
การพบปะกันดังกล่าวจะมีขึ้น หลังการเจรจาเป็นเวลาหลายเดือนระหว่างยูเครนและทางคณะกรรมการ ซึ่งถือครองพันธบัตรของยูเครนราว 9 พันล้านดอลลาร์
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลยูเครนเตรียมเสนอให้มีการลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตร แต่จะไม่มากถึง 40% ตามที่ได้เสนอไว้ในช่วงแรก
ทั้งนี้ ยูเครนมีหนี้คงค้างที่ยังไม่ได้ชำระรวม 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ว่า คณะผู้บริหารของ IMF ได้อนุมัติการเบิกจ่ายเงินกู้รอบใหม่ให้กับยูเครนมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินระยะเวลา 4 ปี วงเงินรวม 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในขณะนี้ ยูเครนได้รับเงินกู้เบิกจ่ายตามโครงการดังกล่าวของ IMF ไปแล้วทั้งสิ้น 6.68 พันล้านดอลลาร์
การอนุมัติเบิกจ่ายเงินกู้รอบใหม่นี้มีขึ้นหลังจาก IMF ได้เสร็จสิ้นการทบทวนความคืบหน้าของรัฐบาลยูเครน ตามเงื่อนไขของโครงการให้ความช่วยเหลือ โดย IMF เล็งเห็นว่ารัฐบาลยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้อนุมัติการเบิกจ่ายเงินกู้งวดแรกให้กับยูเครน มูลค่า 600 ล้านยูโร (654 ล้านดอลลาร์) ตามโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในระดับมหภาค ซึ่งมีมูลค่ารวม 1.8 พันล้านยูโร โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ยูเครนสามารถเดินหน้าการปฏิรูปด้านการคลังสาธารณะ ธรรมาภิบาล และความโปร่งใส ตลอดจนการปฏิรูปภาคพลังงาน ระบบสวัสดิการเพื่อผู้ยากไร้ การสนับสนุนภาคธุรกิจ และฟื้นฟูภาคการเงิน
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของยูเครนประสบภาวะวิกฤติใกล้ล้มละลาย จากความขัดแย้งทางการเมืองที่ดำเนินมาราว 1 ปีกับรัสเซีย