นายเหยา หยูตง หัวหน้าสถาบันวิจัยการเงินของธนาคารกลางจีน กล่าวโทษว่า การคาดการณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนก.ย. เป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก
นายเหยาระบุว่า การคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าคือตัวกระตุ้นให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์วิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะเป็นตัวเร่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง และอาจจะกระตุ้นให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ทั่วโลก และแม้กระทั่งอาจจะส่งผลให้เกิดวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่
นายเหยาระบุว่า เฟดควรจะอดทนรอไปก่อนจนกว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 2%
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า การปรับลดค่าเงินหยวนของจีนเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดดิ่งลง และส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินของประเทศอื่นๆปรับตัวลดลง
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนทรุดตัวลง 7.63% ปิดที่ 2,964.97 จุดเมื่อวานนี้ และรูดลงไปแล้ว 26% ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา
ในขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 588 จุด หรือ 3.58% แตะที่ 15,871 จุด เมื่อวันจันทร์ หลังจากที่รูดลงมากกว่า 1,000 จุด หรือ 6% ในช่วงเปิดตลาด
นายหลี่ ฉือหลิน นักวิเคราะห์ของหมินเซิง ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า การปรับลดค่าเงินหยวนเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อตลาดหุ้น แต่ไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดการเทขายจำนวนมากในสหรัฐและประเทศอื่นๆ
นายหลี่ชี้ว่า ภาวะสภาพคล่องตึงตัวคือสาเหตุสำคัญ
ด้านแคปิตอล อีโคโนมิคส์ ระบุว่า ความผันผวนของตลาดโลกไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และวิกฤตการเงินในเอเชียจะไม่เกิดซ้ำ แต่ขณะเดียวกันก็ระบุด้วยว่า หากตลาดหุ้นยังร่วงลงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก อาจจะส่งผลให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน