รายงาน "RMB international Report 2015" ซึ่งจัดทำโดยสถาบัน IMI ระบุว่า ที่ผ่านมานั้น จีนได้สนับสนุนยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั้ง 2 ประการ ขณะที่ประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศทั่วโลกจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินยุทธศาสตร์ดังกล่าว
เปน เซิงหลิง ผู้อำนวยการบริหารของ IMI เชื่อว่า จีนมีความคืบหน้าอย่างมากในการผลักดันเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากล นับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนเริ่มทดลองให้บริการชำระบัญชีการค้าข้ามเขตแดนด้วยสกุลเงินหยวนเป็นครั้งแรก
"ยุทธศาสตร์ One Belt and One Road จะส่งผลดีแก่ทุกประเทศที่มีการเชื่อมโยงกับเส้นทางนี้ และยังถือเป็นโอกาสทองสำหรับการผลักดันเงินหยวนสู่สากลด้วย" เขากล่าว
นอกจากนี้ รายงานของ IMI ยังเผยให้เห็นถึงผลการศึกษาที่ระบุว่า การใช้สกุลเงินหยวนในสัดส่วนที่สูงขึ้นนั้น จะช่วยป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรม เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยรวม และสามารถผนวกรวมการค้าและเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน