World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 10, 2015 17:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 1.6% ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะปรับขึ้น 1.5%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ปรับตัวลง 5.9% เมื่อเทียบรายปี ในเดือนต.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากในเดือนก.ย.ที่หดตัวลง 5.9% เช่นกัน เทียบรายปี

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย.ปีนี้ พุ่งขึ้นกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการเกินดุลในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งยอดการนำเข้าที่ปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบร่วงลง

-- สำนักงานพลังงานระหว่างประทศ (IEA) เปิดเผยในวันนี้ว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่เต็มใจที่จะจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันนั้น จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในระดับต่ำต่อไปเป็นเวลานาน และจะส่งผลกระทบต่องบประมาณของบรรดาประเทศสมาชิก

-- นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ได้เน้นย้ำถึงแผนการผลักดันให้มีการลดภาษีนิติบุคคล โดยกล่าวว่า เขาจะหาลู่ทางปรับลดภาษีนิติบุคคลสำหรับปีงบการเงินซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ปีหน้า ในสัดส่วนที่สูงกว่าที่เคยปรับลดในช่วงก่อนหน้านี้

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ราคาผลิตภัณฑ์ส่งออกของเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงหนักสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากสกุลเงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

-- กระทรวงยุทธศาสตร์และการคลังของเกาหลีใต้รายงานว่า ยอดการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ หลังบริษัทเกาหลีใต้นิยมลงทุนในฮ่องกงและสหรัฐอเมริกา

-- นายไมเคิล ทาวส์เฮนด์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทบีพี คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเคลื่อนไหวในกรอบ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 3 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อยที่สุด เนื่องจากอุปทานน้ำมันยังคงมีมากกว่าอุปสงค์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ