รายงานระบุว่า อัตรา NPL ณ สิ้นเดือนต.ค. อยู่ที่ 1.92 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็นอัตราส่วน 2.07% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีนี้ 0.43%
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารจีนระบุว่า เจ้าหน้าที่กำกับดูแลของจีนเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดหนี้เสียไม่น่าจะหายไปในอนาคตอันใกล้นี้ และความเสี่ยงด้านสินเชื่อคาดว่า จะยังคงมีอยู่ต่อไป ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ยังไม่ได้สะท้อนออกมาเต็มที่ เนื่องจากอาจมีการประเมินค่าความเสี่ยงต่ำไปในรายงานของธนาคารบางแห่ง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงอีก ส่งผลให้สินทรัพย์ด้อยค่าของธนาคารต่างๆมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยผู้บริหารอาวุโสรายหนึ่งของไชน่า หัวหรง แอสเซท แมเนจเมนท์ คาดการณ์ว่า ทิศทางดังกล่าวอาจจะคงอยู่นานถึง 5 - 10 ปี
ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมการผลิต ค้าปลีก และค้าส่งของจีนมีหนี้เสียมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ขณะที่ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กำกับดูแลธนาคารท้องถิ่นชี้ให้เห็นว่า หนี้เสียได้ขยายตัวไปทั่วทั้งประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน