UBS ซึ่งเป็นธนาคารสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ คาดว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 4 จะขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วงไตรมาส 3 และส่งผลให้อัตราการขยายตัวโดยรวมตลอดทั้งปี 2557 อยู่ที่ 6.9-7%
"ข้อมูลเดือนพ.ย.ที่เปิดเผยออกมาย้ำให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีนมีเสถียรภาพในระดับค่อนข้างต่ำ และกิจกรรมการก่อสร้างที่ย่ำแย่ลงในแง่ของปริมาณอสังหาริมทรัพย์แสดงให้เห็นว่ายังอีกห่างไกลกว่าเราจะให้ได้เห็นการดีดตัวที่ขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐาน" รายงานระบุ
ทั้งนี้ข้อมูลเดือนพ.ย. ของจีนปรับตัวดีขึ้นเกินคาด โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานปรับตัวดีขึ้น การบริโภคแข็งแกร่ง และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเกินคาด
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพุ่งขึ้น 18.2% เมื่อเทียบรายปีในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 ซึ่งสูงกว่าช่วง 10 เดือนแรกอยู่ 0.8%
ขณะที่ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้น ปรับตัวขึ้น 11.2% เทียบรายปีในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่สูงสุดในปีนี้ ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มโต 6.2% ในเดือนพ.ย. ซึ่งกระเตื้องขึ้นจาก 5.6% ในเดือนต.ค.
อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ลดน้อยลงสอดคล้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นเพียง 1.3% เมื่อเทียบรายปีในช่วง 11 เดือนแรก ในขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกขยายตัว 2%
รายงานระบุว่าความต้องลงทุนในธุรกิจยังคงอ่อนแอ
UBS ระบุว่า นโยบายเชิงสนับสนุนจะช่วยชดเชยปัญหาตลาดอสังหาทรัพย์อ่อนแรงและอุปทานล้นตลาดตลอดทั้งปี 2559 ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากการลดการจัดเก็บภาษีบริษัทขนาดเล็ก และการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในด้านสวัสดิการสังคมที่สูงขึ้นจะทำให้เห็นผลช้าลง
UBS คาดว่าทางการจีนจะผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้นในปีหน้า โดยจะมีการปรับลดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งช่วงต้นปี 2559 และการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 3% ในปีหน้า
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะมีเสถียรภาพในแนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้น ก็ต่อเมื่อการก่อสร้างอสังหาทรัพย์หยุดชะลอตัว และมีความคืบหน้าในการลดกำลังการผลิตและการปิดกิจการที่ไม่สามารถทำกำไรได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน