รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาสประจำฤดูหนาวของ NIESR ระบุว่า แม้ว่าตลาดการเงินเผชิญกับความปั่นป่วนตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ย.
นอกเหนือจากความปั่นป่วนจากตลาดการเงินแล้ว เศรษฐกิจอังกฤษยังได้รับผลกระทบด้านลบจากการชะลอตัวของการส่งออก หลังตลาดเกิดใหม่มีความต้องการลดลง
ปัจจัยด้านลบดังกล่าวได้รับการชดเชยด้วยอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการผ่อนคลายนโยบายการคลังของรัฐบาล ซึ่งได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การอ่อนค่าของเงินปอนด์ และตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแรงเกินคาดนั้น ส่งผลให้ราคาผู้บริโภคมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี 2559 เหลือเพียง 0.3% ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อตลอดทั้งปีน่าจะยังคงซบเซา ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษที่ 2.0%
ไซมอน เคอร์บี้ นักวิจัยอาวุโสของ NIESR แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "การคาดการณ์ของเรานั้นส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อสามเดือนก่อน ซึ่งน่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเราได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลก (เหลือ 3.2% ในปี 2559 ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.4%) ขณะที่ตลาดเกิดใหม่ยังคงน่าวิตกและมีแนวโน้มไม่สดใส ทั้งหมดนี้มักส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแบบเปิดกว้างที่มีขนาดเล็กเช่นอังกฤษ และนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังพูดถึง" สำนักข่าวซินหัวรายงาน