"เศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัว แต่เป็นไปอย่างไม่กระจายตัว และการเติบโตยังไม่แข็งแกร่ง ยั่งยืน และมีดุลยภาพอย่างที่เรามุ่งหมาย" แถลงการณ์ระบุ โดยความเสี่ยงขาลงและความเปราะบางต่างๆได้ปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผันผวน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลงอย่างหนัก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในบางภูมิภาค
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่น จึงจะมีการใช้นโยบายการเงินต่อไปเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และรับประกันเสถียรภาพของราคา แต่นโยบายการเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถนำไปสู่การเติบโตอย่างมีดุลยภาพได้
"เราจะใช้นโยบายการคลังอย่างยืดหยุ่นเพื่อเสริมสร้างการเติบโต การสร้างงาน และความเชื่อมั่นให้แข็งแกร่งขึ้น" แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมนอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับตลาดปริวรรตเงินตรา โดยกลุ่มประเทศ G20 ได้ย้ำจุดยืนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่เคยให้คำมั่นกันไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงการที่แต่ละประเทศจะไม่ลดค่าเงินเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และใช้อัตราแลกเปลี่ยนเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแข่งขัน
"เราจะสื่อสารกันอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและเชิงโครงสร้าง เพื่อลดความไม่แน่นอนและผลพวงที่เป็นลบ รวมทั้งส่งเสริมความโปร่งใส"การประชุมรมว.คลังและผู้ว่าแบงก์ชาติจากกลุ่มประเทศ G20 มีขึ้นในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนแอ และตลาดการเงินเผชิญความผันผวนเพิ่มมากขึ้น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เน้นย้ำในสัปดาห์นี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเด็ดขาดเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดตัวเลขลง 0.2% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว อีกทั้งยังเตือนว่าอาจมีการปรับลดคาดการณ์ลงอีกเมื่อมีการเปิดเผยรายงานคาดการณ์ครั้งต่อไปในเดือนเม.ย.