ทิศทางนโยบายที่หนุนการเติบโตนั้นดูจะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น หลังธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกของปีนี้ ขณะที่นายโจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้เปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินจาก "ระมัดระวัง" ไปเป็น "ค่อนข้างผ่อนคลาย" ด้านนายหลู จือเหว่ย รัฐมนตรีการคลังจีน มองเห็นโอกาสมากกว่าในการต่อยอดนโยบายการเงิน และได้คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะขาดดุลงบประมาณมากกว่าเดิม
นายฉู หงปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC กล่าวแสดงความเห็นว่า ทิศทางนโยบายการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นสอดคล้องกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินรวมกันกว่า 1.5 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนม.ค. ผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) รวมถึงที่ผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) โครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) และโครงการจัดสรรเงินกู้เพิ่มเติม (Pledged Supplementary Lending) หรือ PSL
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติจีนเปิดเผยนอกรอบการประชุม G20 ว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงขาลงแล้ว จีนยังคงมีพื้นที่และเครื่องมือสำหรับการผ่อนคลายนโยบาย รวมถึงโครงการ MLF เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืม ขณะที่ความพยายามในการเลี่ยงแรงกดดันด้านการขายเงินหยวนนั้น จะทำให้ยากต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน