นายหม่ากล่าวในที่ประชุมสภาแห่งรัฐของว่า การปฏิรูปเชิงโครงสร้างจะก่อให้เกิดแรงกดดันในตลาดแรงงาน อีกทั้งรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านการจ้างงานไปพร้อมๆ กับการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจ
นายหม่ากล่าวว่า คณะปกครองท้องถิ่นควรให้การสนับสนุนให้ประชาชนก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบกอบการและสนับสนุนการนวัตกรรมเพื่อให้เกิดการสร้างงาน นอกจากนี้แรงงานอพยพควรได้รับการสนับสนุนให้กลับไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ณ ถิ่นฐานบ้านเกิด ส่วนแรงงานที่มีความซ้ำซ้อนจากเหตุความสามารถในการผลิตล้นตลาดควรมีการโยกย้ายและจัดการฝึกอบรม
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายของจีนได้พยายามที่จะลดกำลังการผลิตส่วนเกินเป็นเป้าหมายแรก เพื่อหนุนเศรษฐกิจจีนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ด้านนายยิน เหว่ยหมิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรบุคคลและประกันสังคมของจีน กล่าวว่าในขั้นตอนของการลดกำลังการผลิตนั้น แรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กและถ่านหินราว 1.3 ล้านราย อาจจะตกงาน
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาประเทศจีนประสบความสำเร็จด้านแรงงานด้วยการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 64 ล้านอัตรา ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.1% ถือเป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมของประเทศ นายหม่ากล่าวทิ้งท้าย