ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยรายงานทบทวนทางเลือกอื่นๆในกรณีที่อังกฤษเลือกออกจาก EU ทั้งในแง่ขององค์ประกอบและความหมายโดยนัยของโมเดลที่มีอยู่ โดยรายงานดังกล่าวได้มีการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ EU กับนอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา และตุรกี ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิก EU แต่มีการทำข้อตกลงร่วมกัน
รายงานดังกล่าวสามารถหาข้อสรุปได้ว่า "ไม่มีโมเดลใดนอกเหนือ EU ที่สามารถให้ข้อได้เปรียบและอำนาจเหมือนกับที่เราได้รับจากการที่สหราชอาณาจักรอยู่ใน EU ได้"
รายงานเน้นย้ำว่า โมเดลทางเลือกแต่ละรายการนั้นจะมาพร้อมกับ "พันธะและความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อสหราชอาณาจักร" รวมถึงการที่สหราชอาณาจักรเสียสิทธิในการโหวตและอำนาจวีโต้ เช่นเดียวกับอำนาจในการตัดสินใจและการบัญญัติกฎหมายของ EU
รายงานดังกล่าวระบุว่า "ทางเลือกเหล่านี้ก็จะสร้างความเสียหายนอกเหนือจากเศรษฐกิจเช่นกัน เช่นในเรื่องของความมั่นคงและความแข็งแกร่งของสหราชอาณาจักร" โดยโมเดลทางเลือกนั้น "ไม่มีหลักประกันว่าเราจะสามารถหามาตรการอื่นใดเพื่อทดแทนมาตรการที่มีอยู่เดิมในเรื่องของความร่วมมือด้านตำรวจและการรักษาความปลอดภัย"
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ อังกฤษจะจัดการลงประชามติว่าจะยังคงเป็นสมาชิก EU หรือไม่ หลังนายคาเมรอนเห็นพ้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU ภายหลังการเจรจาอย่างยาวนานตลอด 2 วันร่วมกับผู้นำของกลุ่มประเทศสมาชิก EU ในการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนที่ผ่านมา
รัฐบาลอังกฤษมีจุดยืนว่า อังกฤษควรอยู่ในสหภาพยุโรปที่ได้รับการปฏิรูปต่อไป แต่นักการเมืองระดับสูงจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงกลุ่มรัฐมนตรีและนายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ได้ประกาศสนับสนุนการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือที่เรียกว่า Brexit สำนักข่าวซินหัวรายงาน