การขยายตัวที่ระดับ 2.2% อยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 1.9% ในวันที่ 1 มี.ค.
แบบจำลองยังคาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 3.3% ในไตรมาส 1 สูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.1%
นอกจากนี้ คาดว่าการลงทุนภายในประเทศของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดิมที่คาดว่าลดลง 0.4%
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%
ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 12,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 172,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 151,000 ตำแหน่ง และทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ 271,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 262,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้ลดลง 3 เซนต์ในเดือนก.พ. สู่ระดับเพิ่มขึ้น 2.2% โดยชะลอตัวลงจากระดับ 2.5% ในเดืนม.ค.
ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกสินค้าร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 1.169 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2010 และการส่งออกสินค้าและบริการลดลง 2.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2011
ทั้งนี้ การส่งออกได้ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ส่วนการนำเข้าลดลง 1.6% สู่ระดับ 1.806 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2011
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์
การส่งออกของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอในต่างประเทศ
นอกจากนี้ มีการปรับตัวเลขการขาดดุลการค้าในเดือนธ.ค.ขึ้นสู่ระดับ 4.47 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 4.34 หมื่นล้านดอลลาร์