นายหลูกล่าวว่า ความวิตกเกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของหนี้เสียนั้น ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความไม่เชื่อมั่นในสถานะของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธนาคารต่างๆ ของกระทรวง แต่เป็นเรื่องความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ
นายหลูเปิดเผยในแถลงข่าวการประชุมนอกรอบของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ว่า ธนาคารขนาดใหญ่ของจีนส่วนใหญ่เป็นรูปแบบมหาชน และจุดยืนของกระทรวงการคลังไม่ได้แตกต่างจากนักลงทุนรายอื่นๆ ในเรื่องสถานะของผู้ถือหุ้น
คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน (CBRC) เปิดเผยว่า ภาคธนาคารของจีนมีสัดส่วนหนี้เสียเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.67% ในปี 2558 คิดเป็นมูลค่า 1.27 ล้านล้านหยวน (1.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีสัดส่วนหนี้เสีย 1.64%