สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เศรษฐกิจจีนยังมั่นคง ดังจะเห็นได้จากข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนที่ขยายตัวในเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และโครงสร้างการลงทุนที่ดีขึ้น แม้ตัวเลขการลงทุนจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 6% เทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกับเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และสอดคล้องคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.45%
ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.8% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
นายเฉิง ไหลยุน โฆษก NBS เปิดเผยว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า โครงสร้างอุตสาหกรรมของจีนฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลผลิตในอุตสาหกรรมไฮเทคและอุปกรณ์ยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 11.5% และ 8.5% ในเดือนพ.ค.
สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัว 9.6% ซึ่งต่ำกว่าระดับการขยายตัว 10.5% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวในอัตราที่ลดลง เนื่องจากการลงทุนของภาคเอกชนชะลอตัว ทั้งนี้ การลงทุนของภาคเอกชนจีนขยายตัว 3.9% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงจากการขยายตัว 5.2% ในช่วง 4 เดือนแรก สำหรับการลงทุนของภาคเอกชนนั้นคิดเป็น 62% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมดในช่วง 5 เดือนแรก
นายเฉิงระบุว่า การลงทุนของภาคเอกชนจีนที่ชะลอตัวลงเป็นการสะท้อนว่า แรงขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ยังกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจจีนยังคงแข็งแกร่ง
แม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจีนจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวก็จริง แต่โฆษก NBS ระบุว่า โครงสร้างการลงทุนของจีนนั้นดีขึ้นแล้ว มีการลงทุนเข้าไปในภาคเทคโนโลยีและภาคบริการมากขึ้น ในขณะที่การลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงหรือมีการผลิตส่วนเกินนั้น ลดลง
เขากล่าวว่า จีนจะเดินหน้าปรับโครงสร้างฝั่งอุปทานต่อไป พร้อมกับขยายอุปสงค์ของประเทศ
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 6.7% ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกช่วงต้นปี 2552 แต่ยังคงสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายปี 2559 ของทางการจีนซึ่งอยู่ที่ 6.5-7% สำนักข่าวซินหัวรายงาน