"ผู้ที่ยึดอำนาจในยูเครนในขณะนี้ ได้หันมาใช้กลยุทธ์ด้านก่อการร้าย แทนที่จะแสวงหาข้อตกลงเพื่อสันติ" ปูตินกล่าว และยังกล่าวด้วยว่า "ความพยายามที่จะยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและความขัดแย้งนั้น ไม่มีมีจุดประสงค์อื่นใด นอกเสียจากต้องการจะเบี่ยงเบนความสนใจออกจากปัญหาภายในประเทศของยูเครนเอง" โดยปูตินระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอาชญากรรม
"เราจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของพลเมืองและสาธารณูปโภคพื้นฐานในไครเมีย และเราจะใช้มาตรการเพิ่มเติมและแนวทางอื่นๆ" นายปูตินกล่าว
ก่อนหน้านี้ สำนักงานความมั่นคงแห่งรัสเซีย (FSB) รายงานว่า FSB ได้ปกป้องคาบสมุทรไครเมียจากการก่อการร้าย
ด้านประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชงโกแห่งยูเครนได้ออกมาโต้ว่า "การที่รัสเซียกล่าวหายูเครนในประเด็นการก่อการร้ายบริเวณคาบสมุทรไครเมียเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นการดูหมิ่น
ทั้งนี้ คาบสมุครไครเมียที่เคยเป็นอาณาเขตของยูเครน ได้ถูกรวมเข้ากับรัสเซียเมื่อปี 2557 หลังการลงประชามติที่รัสเซียยอมรับ แต่ยูเครนและประเทศตะวันตกปฏิเสธ
นายโอเลกซานดร์ เทอร์ชีนอฟ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและความมั่นคงแห่งชาติยูเครนกล่าวว่า ถ้อยแถลงของรัสเซียนั้นไร้สาระและไม่เป็นความจริง และกระทรวงกลาโหมยูเครนมองว่า คำพูดดังกล่าวเกิดจากความพยายามของรัสเซียที่จะกลับมาวางกองกำลังในคาบสมุทรไครเมียอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายโวโลดีมีร์ เยลเชนโก เอกอัครราชทูตยูเครนกล่าวว่า ยูเครนจะเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดการประชุมฉุกเฉิน หากความตึงเครียดระหว่างสองฝ่ายยังรุนแรง พร้อมกล่าวว่า "ขณะนี้ ทางหน่วยงานอยู่ระหว่างพิจารณาการจัดการประชุม และเมื่อได้ผลสรุปเรียบร้อยแล้ว เราจะดำเนินการทันที"
ในฐานะสมาชิกชั่วคราวของ UNSC ยูเครนมีสิทธิในการเรียกร้องการจัดการประชุมในประเด็นที่พิจารณาว่าเป็นการคุกคามความมั่นคงและสันติภาพระหว่างประเทศ ซึ่งยูเครนได้จัดการประชุมเกี่ยวกับวิกฤติของประเทศเพียงครั้งเดียว นับตั้งแต่การเข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะมนตรีในเดือนม.ค.
รัฐบาลยูเครน สหรัฐ และยุโรปได้กล่าวหารัสเซียเกี่ยวกับกลุ่มสนับสนุนการแบ่งแยกของรัสเซียที่อยู่ในพื้นที่ตะวันออกของยูเครนมาอย่างยาวนาน
นายจอห์น เฮิร์บสต์ อดีตเอกอัคราชทูตสหรัฐประจำยูเครนกล่าวว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงยูเครนได้ยกระดับความแข็งแกร่งของกองกำลังในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศและพื้นที่ทางตอนเหนือของไครเมีย
ทั้งนี้ ตัวแทนจากยูเครน รัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมันได้ลงนามในข้อตกลงมินสก์ เมื่อเดือนก.ย. 2557 และเดือนก.พ. 2558 เพื่อบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ในเมืองหลวงของยูเครน
อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนและกลุ่มกบฎที่สนับสนุนรัสเซียยังคงสู่รบกันในบริเวณพื้นที่ตะวันออก แม้ได้มีการทำข้อตกลงเพื่อสันติภาพกันแล้วก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน