นายวิตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในตลาดเงินเมื่อไม่นานมานี้ ได้สะท้อนถึงกระแสคาดการณ์เชิงบวกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวขึ้น ผ่านการขยายขอบข่ายนโยบายด้านการคลัง
อย่างไรก็ดี ความคาดหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อพิจารณาจากนโยบาย "America first" ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐนั้น อาจไม่สามารถหนุนเศรษฐกิจในต่างประเทศในระยะยาวได้
ตลาดเงินหลายๆแห่ง โดยเฉพาะตลาดหุ้น ต่างก็ได้รับประโยชน์ อย่างมากจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนายทรัมป์ได้ให้คำมั่นระหว่างหาเสียงไว้ว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการคลังมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ
นายคอนสแตนซิโอ กล่าวว่า "มุมมองของตลาดที่ว่าสหรัฐกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งนโยบายงบประมาณแบบขยายตัวนั้นช่วยให้ผู้คนมีทัศนคติดีขึ้น ซึ่งเห็นได้ในตลาดเงินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา"
"เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของการย้ายฐานการลงทุนจากตลาดพันธบัตรไปเป็นตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา" รองปธ. ECB กล่าว โดยมูลค่าพันธบัตรทั่วโลกนั้นได้ปรับตัวลดลงเกือบ 1 ล้านล้านยูโรแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางถึงระยะยาวอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดแรงเทขายพันธบัตรในตลาด ซึ่งเอื้อต่อการทำกำไรของสถาบันการเงิน โดยถือว่าเป็น "ข่าวดี" สำหรับแวดวงธนาคารยุโรปที่ปัจจุบันมีศักยภาพทำกำไรไม่มาก
แต่ถึงกระนั้น นายคอนสแตนซิโอเตือนว่า "เราควรมีความรอบคอบในการหาข้อสรุปจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในลาด ไม่ใช่รีบสรุปในทางที่ดี เพราะเศรษฐกิจโลกอาจจะไม่มีการฟื้นตัวในอัตราที่สูงนัก" สำนักข่าวซินหัวรายงาน