นายอรุณ เจทลีย์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอินเดีย เปิดเผยว่า ทางการอินเดียเตรียมอัดฉีดเงินเป็นจำนวนกว่า 1 แสนล้านรูปี หรือประมาณ 1.48 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่ธนาคารของรัฐในปีงบประมาณหน้า ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับยอดกู้ยืมและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
แผนอัดฉีดดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการยกระดับธนาคารภาครัฐ โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จำนวนเงินดังกล่าวอาจปรับเพิ่มขึ้นอีกหากจำเป็น
แม้ว่าเงินจำนวนนี้น้อยกว่าที่เคยจัดสรรไว้ 2.5 แสนล้านรูปีตามแผนงบประมาณก่อนหน้า แต่ก็ถือว่าสอดคล้องกับที่ทางการอินเดียเคยให้คำมั่นไว้สำหรับปีงบประมาณ 2561 และ 2561
ทั้งนี้ ยอดการกู้ยืมของอินเดียได้ดิ่งลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 25 ปี เนื่องจากปริมาณหนี้เสียในระดับสูง ประกอบกับการประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรบางประเภทด้วย
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลของนายนาเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรประเภท 500 และ 1,000 รูปี เพื่อกวาดล้างการคอรัปชั่น และการหลีกเลี่ยงภาษี อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลให้ชาวอินเดียต้องเข้าแถวยาวเหยียดที่ธนาคารเพื่อแลกธนบัตรแบบใหม่ แต่บ่อยครั้งก็ต้องพบกับปัญหาการขาดแคลนธนบัตรใหม่ ซึ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลขาดการเตรียมพร้อมที่ดีในการใช้มาตรการดังกล่าว