Economic Watch:จีนส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินที่เป็นกลางด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 6, 2017 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางจีนสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดการเงินด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันทำการแรกของปีไก่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถูกตีความว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การใช้นโยบายการเงินที่เป็นกลาง เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ธนาคารกลางจีนจึงได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรผ่านโครงการซื้อขายหลักทรัพย์หรือพันธบัตรของทางการ (open market operation) โดยปรับขึ้น 0.10%

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนสภาพคล่องสำหรับสถาบันการเงิน นักวิเคราะห์มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือด้านนโยบายที่มีความยืดหยุ่นสำหรับธนาคารกลางจีนในการป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินและควบคุมภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ ในขณะที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ แม้ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนก็ตาม โดยจีนได้รายงานอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี 2559 ที่ 6.7% ซึ่งแม้ว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขในปีก่อนๆ แต่ยังคงอยู่ในกรอบของเป้าหมายของรัฐบาล

ในปีนี้ รัฐบาลจีนกำลังดูแลให้นโยบายการเงินอยู่ในภาวะที่เป็นกลาง และส่งสัญญาด้วยว่า จะปรับอุปทานเงินให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องสภาพคล่องที่มีเสถียรภาพ รวมทั้งการปรับใช้เครื่องมือด้านการเงิน โดยรายงานของธนาคาร CICC ของจีนระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถือเป็นอีกสัญญาณของการหลุดพ้นจากมาตรการผ่อนคลายด้านการเงิน รวมทั้งการเดินหน้าเพื่อผลักดันให้เกิดการลดหนี้ภาคการเงิน ในขณะที่ต้นทุนการระดมทุนที่สูงขึ้นในระดับปานกลางเป็นปัจจัยที่สำคัญในการปรับลดการขยายตัวของสินเชื่อ

ตลาดหุ้นจีนอ่อนตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยความหวั่นวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มเพิ่มเติม โดยดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ปืดอ่อนตัวลง 0.6% ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นปิดอ่อนตัวลง 0.47%

แบงก์ชาติจีนยังได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางอีก 0.10% ก่อนที่จะถึงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ได้มีการนำเครื่องมือด้านสภาพคล่องมาใช้เมื่อปี 2557

หลี่ เจียนจุน นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ คุนหลุน กล่าวกับไฟแนนเชียล นิวส์เมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า การใช้เครื่องมือด้านนโยบายที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนี้ ในอนาคตนั้น ธนาคารกลางจีนเองควรจะใช้เครื่องมือที่มีความแตกต่างไปจากเดิมได้ดียิ่งขึ้น ทางด้านนายจาง เสี่ยวฮุย ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติจีน กล่าวว่า จีนได้คงนโยบายการเงินไว้เช่นเดิมมาตั้งแต่ปี 2554 ในบทความที่ได้มีการตีพิมพ์ในไชน่า ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการเงินของแบงก์ชาติจีนนั้น จาง ระบุว่า จีนควรจะใช้นโยบายการเงินอย่างรอบคอบและมีเสถียรภาพ รวมทั้งเพิ่มความต้องการอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงภาวะการชะลอตัวอย่างรวดเร็วมากจนเกินไปของเศรษฐกิจประเทศ และในขณะเดียวกันก็ควรจะหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานเงินที่มากจนเกินไปเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่

การพึ่งพาการขยายตัวของสินเชื่อมากจนเกินไปเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัวของจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อกระแสเงินสด (leverage) ในหลายภาคส่วนสูงขึ้น และยังทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นจนเกินไป จนทำให้เกิดภาวะฟองสบู่และความเสี่ยง นายจางย้ำว่า ประเด็นเรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่จริงจังของจีน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ในบางภาคส่วนนั้น ทำให้การใช้นโยบายการเงินที่เป็นกลางและรอบคอบมากขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อให้สามารถสร้างสมดุลให้กับการขยายตัวและป้องกันความเสี่ยง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เกิดสภาพแวดล้อมด้านการเงินที่เหมาะสมมากขึ้น และยังช่วยซื้อเวลาให้กับจีนในการที่จะส่งเสริมการปฏิรูปเชิงโครงสร้างในฝั่งอุปทานด้วยเช่นกัน

ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดหลักของเงินเฟ้อ ขยายตัวขึ้น 2.1% เมื่อเดือนธ.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ดัชนีราคาผู้ผลิตขยายตัว 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์เงินเฟ้อมากขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายควรจะใช้วิธีการแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่ควรคาดหวังว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนทั้งภายในและจากต่างประเทศที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจจีน

CICC ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากความต้องการในการระดมทุนที่อ่อนตัวลงตามฤดูกาลแล้ว การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเริ่มปี และการปรับขึ้นการคาดการณ์เงินเฟ้อแล้ว แบงก์ชาติจีนอาจจะดูดซับสภาพคล่องผ่านการดำเนินการในตลาดการเงินในเร็วๆนี้ โดยจีนได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีไว้ที่ 4.35% นับตั้งแต่ที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งล่าสุดเมื่อเดือนต.ค. 2558 สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ