เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งรวมถึงนายเบอนัว เกอร์ หนึ่งในกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ECB ยังไม่ควรลดมาตรการกระตุ้นทางการเงิน ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจจะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้า แม้เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจะเริ่มฟื้นตัวแข็งแกร่งแล้วก็ตาม
นายเบอนัวย้ำว่า ขณะนี้ ECB ยังไม่ควรปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน เช่นเดียวกับนายปีเตอร์ แพรต หนึ่งในกรรมการบริหารของ ECB ที่ออกมาแสดงความเห็นในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ ECB มีขึ้นก่อนที่การประชุม ECB จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
ส่วนในการประชุมเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับลดสู่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ธ.ค. โดยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรในเดือนเม.ย.-ธ.ค. เป็นไปตามที่ ECB ประกาศไว้ในการประชุมเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB