สายการบินจีนกำไรร่วง เหตุราคาน้ำมันพุ่งดันต้นทุนสูง

หนังสือพิมพ์ ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ เจอร์นัล รายงานว่า แม้จำนวนผู้โดยสารจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่สายการบินจีนส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลับมีผลกำไรน้อยลงในไตรมาส 1 ปี 2560 เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

สายการบินจีนทุกสายการบินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้เปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2560 ซึ่งปรากฏว่าสายการบินส่วนใหญ่มีผลกำไรลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของทางสายการบิน

สายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่ที่สุดของประเทศเมื่อพิจารณาจากปริมาณผู้โดยสาร มีผลกำไรสุทธิร่วงลง 42.44% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.55 พันล้านหยวน (ประมาณ 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสแรกของปี แม้มีรายได้เพิ่มขึ้น 10.58% แตะที่ 3.097 หมื่นล้านหยวน โดยราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของ ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบรายปี

ด้านสายการบินอื่นๆ ต่างก็ได้รับแรงกดดันจากต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย แอร์ ไชน่า สายการบินแห่งชาติของจีน มีผลกำไรสุทธิร่วงลง 39.8% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.47 พันล้านหยวน ขณะที่สายการบิน ไห่หนาน แอร์ไลน์ มีผลกำไรสุทธิร่วงลง 42% แตะที่ 835 ล้านหยวน

ขณะเดียวกัน สายการบินขนาดเล็กมีผลกำไรลดลงเล็กน้อย โดยสายการบิน จูนเหยา แอร์ไลน์ และ สปริง แอร์ไลน์ มีกำไรลดลง 7.5% และ 17.3% ตามลำดับ

กรมการบินพลเรือนของจีน (CAAC) เปิดเผยว่า การเดินทางทางอากาศของจีนเพิ่มขึ้น 13.8% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมี.ค. 2560 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่สูงขึ้นจาก 9.8% ในเดือนก.พ. และ 11.8% ในปี 2559