รัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงิน 40 ล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เพื่อส่งเสริมกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาให้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยเรื่องดังกล่าวในระหว่างการสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของ ADB ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโยโกฮามา โดยนายอาโสะกล่าวว่า ระบบโครงสร้างพื้นฐานควรมีการเชื่อมต่อที่เปิดกว้าง โปร่งใส และครอบคลุมมากขึ้น
ทางการญี่ปุ่นระบุว่า เม็ดเงิน 40 ล้านดอลลาร์ซึ่งญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะจัดสรรให้กับ ADB ในช่วง 2 ปีข้างหน้านั้น จะนำเข้าสู่กองทุนทรัสต์แห่งใหม่ที่ก่อตั้งโดย ADB เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาดและโครงการขนส่ง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศหลักที่ให้การสนับสนุน ADBนั้น มีจุดยืนในการส่งเสริมระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ และพยายามเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้มาตรการรับมือกับความเสี่ยง อีกทั้งสนับสนุนให้มีการติดตั้งระบบป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ทั้งนี้ ADB คาดการณ์ว่า การสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้เงินทั้งสิ้น 26 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก