สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษขยายตัวเพียง 1.7%ในปีนี้ และ 1.9% ในปีหน้า
นายทิม เคอร์บี หัวหน้าการพัฒนาแบบจำลองเศรษฐกิจมหภาค NIESR เปิดเผยว่า ในปีนี้อังกฤษเผชิญกับหลายเหตุการณ์ที่อาจเป็นปัจจัยลบต่อตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่ส่งผลรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
"เหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจคือการประกาศจัดการเลือกตั้ง 8 มิ.ย.โดยนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งแม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดการเงิน แต่เราก็จับตาผลการเลือกตั้งต่อไป สำหรับภาพรวม อังกฤษในเวลานี้ค่อนข้างมีเสถียรภาพ " นายเคอร์บีกล่าวเขากล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัวลง คือการชะลอตัวของภาคบริการ ประกอบกับการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง โดยคาดว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคจะยังคงซบเซายาวไปจนถึงปี 2561 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้น ได้บั่นทอนกำลังซื้อของครัวเรือน
นอกจากนี้ NIESR ยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 0.25% ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2562 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และหลังจากนั้นจะค่อยๆปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.50% ต่อปี