นายเฉิน ยูลู่ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ ธนาคารกลางจีนจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบเป็นกลาง (neutral monetary policy) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า สภาพคล่องในตลาดการเงินยังคงมีเสถียรภาพและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน
นายเฉินกล่าวว่า การปฏิรูปเชิงโครงสร้างจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในฐานะเครื่องมือด้านนโยบายของรัฐบาล พร้อมระบุว่า จีนยังคงเดินหน้าใช้กลไกการประเมินเศรษฐกิจมหภาคอย่างรอบคอบ (MPA) เพื่อปกป้องความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ โดยกลไกดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งทำให้จีนกลายเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ริเริ่มการใช้กลไกประเภทนี้
ธนาคารกลางจีนระบุว่า ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดทั้งสิ้น 5.258 แสนล้านหยวน (7.73 หมื่นล้านดอลลาร์) ผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF), โครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) และ โครงการจัดสรรเงินกู้เพิ่มเติม (Pledged Supplementary Lending) หรือ PSL
ทั้งนี้ SLF เครื่องมือในการสนับสนุนสภาพคล่องสำหรับสถาบันการเงิน ส่วน MLF เป็นเครื่องมือด้านนโยบายที่ธนาคารกลางนำมาใช้เพื่อจัดการภาวะด้านการเงินและอัตราดอกเบี้ยระยะกลางในระบบการเงินและตลาดเงิน ให้เป็นไปอย่างสมดุล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาด แทนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดย reverse repo เป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางจีนเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต ซึ่งมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายสภาพคล่องในตลาด