นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เสนอที่จะแปรรูประบบควบคุมจราจรทางอากาศของสหรัฐให้เป็นของเอกชน เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์ว่า "ผมขอเสนอแนวทางใหม่ต่อสภาคองเกรสในเรื่องของการปฏิรูปการควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อให้บริหารเที่ยวบินได้เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น"
แผนการที่ปธน.ทรัมป์ได้ยื่นให้กับสภาคองเกรสระบุว่า "รัฐบาลสนับสนุนการแปรรูประบบควบคุมจราจรทางอากาศของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ให้เป็นของหน่วยงานนอกภาครัฐ ... เพื่อให้ก้าวทันอุตสาหกรรมการบินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว"
ข้อเสนอดังกล่าวได้กำหนดเกณฑ์ไว้ว่า หน่วยงานใหม่นี้จำเป็นต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการควบคุมจราจรทางอากาศ รวมถึงในแง่ความปลอดภัย ความมั่นคงของชาติ และความมั่นคงทางไซเบอร์
ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวแสดงความผิดหวังต่อระบบควบคุมจราจรในปัจจุบัน เขามองว่าระบบดังกล่าว "โบราณ ไม่สมบูรณ์ ล้าสมัย และแย่มาก ซึ่งทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพ" โดย "รัฐบาลชุดก่อนได้ใช้งบประมาณกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ในการยกระดับระบบดังกล่าว ทว่ายังล้มเหลว"
"ด้วยสภาพแวดล้อมนี้ ความพยายามของรัฐบาลจึงไม่น่าจะประสบความสำเร็จ" ปธน.ทรัมป์ ระบุในจดหมายต่อสภาคองเกรส พร้อมเสริมว่าขณะนี้จำเป็นต้องมีการจัดตั้ง "หน่วยงานควบคุมจราจรทางอากาศที่ไม่แสวงกำไรซึ่งจะใช้ประโยชน์จากเงินทุนเอกชน"
แผนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากบรรดาอดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ซึ่งต่างยกย่องการดำเนินการดังกล่าวว่าเป็น "ทางแก้ไขที่ถูกต้องในยุคศตวรรษที่ 21"
นายเจมส์ เบิร์นลีย์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐ กล่าวว่า "ขณะนี้สหรัฐกำลังตามหลังชาติอื่นๆ เช่น แคนาดา ซึ่งได้แยกระบบควบคุมจราจรออกจากอำนาจรัฐ ข้อเสนอของปธน.ทรัมป์จึงเป็นทางแก้ไขที่ถูกต้องในยุคศตวรรษที่ 21"
อย่างไรก็ดี ฝ่ายคัดค้านได้เตือนว่า ข้อเสนอดังกล่าวซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส จะส่งผลให้อุตสาหกรรมการบินมีอำนาจมากเกินไป