กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% จาก 4.4% ในเดือนส.ค. โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553
ส่วนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ปิดขยับลงเพียง 1.72 จุด หรือ -0.01% แตะที่ระดับ 22,773.67 จุด เนื่องจากนักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ลดลงนั้น เป็นผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ยังคงบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
-- นักลงทุนจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ซึ่งมาร์กิตและไฉซินจะเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย.เช่นกัน โดยนักลงทุนต้องการจับสัญญาณแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนซึ่งมาร์กิตและไฉซินรายงานเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนที่ 52.7 จากระดับ 51.5 ในเดือนก.ค. สำหรับดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการในเดือนส.ค.นั้น เพิ่มขึ้นแตะระดับ 52.4 จากระดับ 51.9 ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ
-- ตลาดการเงินจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังในกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ในวันนี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้เช่นกัน
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของ IMF นั้น นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF กล่าวแสดงความเห็นว่า IMF มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เธอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆเดินหน้าปฏิรูปต่อไป เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
"เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นในสัปดาห์หน้า เราจะเปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับปรับปรุง ซึ่งอาจมีการปรับเพิ่มมุมมองต่อเศรษฐกิจ" นางลาการ์ดกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์นี้
-- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า คณะกรรมการ FOMC จะหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่
สำหรับการประชุมในวันดังกล่าวนั้น คณะกรรมการ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ พร้อมประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
-- สถานการณ์การเมืองที่น่าจับตาในวันนี้ สถานทูตตุรกีประจำสหรัฐประกาศระงับการให้บริการวีซ่าประเภท "คนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)" ทั้งหมด ที่สถานทูตและสถานกงสุลของตุรกีในสหรัฐ เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยการตัดสินใจดังกล่าวของตุรกีถือเป็นการตอบโต้สถานทูตสหรัฐประจำกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ที่ประกาศระงับการให้บริการวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว ที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐในตุรกี
ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาวระหว่างสหรัฐและตุรกี ซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) นั้น มีขึ้นหลังจากมีการจับกุมตัวนายเมติน โทเปซ พนักงานท้องถิ่นของสถานกงสุลในเมืองอิสตันบูลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในข้อหาจารกรรมและมีส่วนพัวพันกับนายเฟตุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาอิสลาม ซึ่งถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหารในตรุกีเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
-- กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเตรียมเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนส.ค.ในวันนี้
ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ซึ่งทางกระทรวงได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น อยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% โดยปัจจัยที่ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีทรงตัวนั้น มาจากการผลิตพลังงานที่ลดลง