ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในเมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยให้คำมั่นว่า แผนปฏิรูประบบภาษีของเขาจะช่วยลดกฎระเบียบต่างๆ อีกทั้งช่วยให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนของสหรัฐสามารถประหยัดเงินได้หลายล้านดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์ยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีโดยเร็ว พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า "ท้ายที่สุดแล้ว รัฐสภาจะโหวตอนุมัติร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวอย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ทรัมป์ยังชี้แจงด้วยว่า การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจนั้น จะเอื้อประโยชน์ต่อครอบครัวชนชั้นกลางในบั้นปลาย หลังจากที่ทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า พยายามผลักดันแผนปฏิรูปภาษีเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคนร่ำรวยเท่านั้น
ทรัมป์กล่าวว่า "หากภาคธุรกิจมีผลกำไรมากขึ้นจากการเสียภาษีน้อยลง จะทำให้พวกเขาสามารถจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สหรัฐยังได้ประโยชน์มหาศาลจากการที่องค์กรธุรกิจของสหรัฐในต่างประเทศย้ายกลับมาดำเนินงานในสหรัฐ"
ทั้งนี้ ทรัมป์ยังคงเดินหน้าผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศมาตรการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่สุดในรอบ 30 ปีครั้งนี้ ในระหว่างการปราศรัยที่เมืองอินเดียนาโพลิส โดยเขาเสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์ยังได้เปิดเผยแผนการปรับลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และยกเลิกนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มบุคคลที่ได้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีในรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต