ตลาดการเงินจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.นี้ ขณะที่กระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่เชื่อว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมครั้งนี้
นักวิเคราะห์คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดจะพิจารณาอัตราเงินเฟ้อ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร เพื่อประเมินแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาถ้อยแถลงของเฟด ทั้งในด้านภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และผลกระทบที่เกิดจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า คณะกรรมการ FOMC อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจาก FOMC ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้
สำหรับการประชุมครั้งหลังสุดซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% พร้อมประกาศว่า จะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์