นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส คาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. เนื่องจากอัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลง
นายแคปแลนกล่าวว่า เขายังคงเปิดกว้างในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด พร้อมกล่าวว่า อัตราว่างงานของสหรัฐซึ่งปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.1% นั้น มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงอีก และเป็นปัจจัยกระตุ้นให้คณะกรรมการเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
นอกจากนี้ นายแคปแลนคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะค่อยๆปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
การแสดงความเห็นของนายแคปแลนเป็นไปในทิศทางเดียวกับนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งมีมุมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเขามองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปีหน้านั้นถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม
ทั้งนี้ นายวิลเลียมส์ยังคงมีจุดยืนสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเขาเปิดเผยในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เนื่องจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นอีก