กระทรวงการคลังสหรัฐเผยร่างกม.ปฏิรูปภาษีจะช่วยสร้างรายได้มากถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 12, 2017 10:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีจะช่วยสร้างรายได้มากถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงหนึ่งทศวรรษ หากเศรษฐกิจขยายตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานนโยบายภาษีในสังกัดกระทรวงการคลัง ได้จำลองสถานการณ์จากแผนปฏิรูปภาษีของคณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภา ด้วยสมมติฐานที่ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวประมาณ 2.9% ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ในแผนงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2561 ของรัฐบาลสหรัฐ

เมื่อเทียบกับที่ตามสถานการณ์ปกติคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวปีละ 2.2% นั้น รายงานใหม่นี้ระบุว่า ส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 0.7% มาจากการเปลี่ยนแปลงในแง่ภาษีอากรบริษัท ภาษีแบบ pass-through และการปฏิรูปภาษีบุคคลธรรมดา เช่นเดียวกับมาตรการปฏิรูปด้านการกำกับดูแล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปฏิรูปสวัสดิการ

รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้ว รายได้จากภาษีในช่วง 10 ปีข้างหน้าก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัฐบาลจะเรียกเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เมื่อหักจำนวนภาษีที่ปรับลดตามร่างกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์

รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้เหตุผลตลอดเวลาที่ผ่านมาว่า การปฏิรูปภาษีจะเข้ามาชดเชยส่วนที่เสีย จากการที่เศรษฐกิจขยายตัวเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี บรรดานักวิเคราะห์จากสถาบันอิสระและนักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอันเป็นผลจากการปฏิรูปภาษีจะอยู่ในวงจำกัด โดยสหรัฐจะขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คณะกรรมการร่วมด้านภาษี ซึ่งเป็นคณะกรรมการไม่ระบุพรรคในสังกัดสภาคองเกรสของสหรัฐ เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายภาษีฉบับวุฒิสภาจะทำให้สูญเสียเงินไปประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี แม้เศรษฐกิจขยายตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา เปิดเผยผ่านแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า "บทวิเคราะห์ล่าสุดจากกระทรวงการคลังนั้นเป็นเพียงการคำนวณลวงๆหนึ่งหน้ากระดาษ"

เขากล่าวว่า "เป็นที่ชัดเจนว่า ทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันยังคงดื้อดึงในการพิสูจน์สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ เพื่อเรียกคะแนนโหวตร่างกฎหมายที่บทวิเคราะห์จากสถาบันอิสระแทบทุกฉบับได้สรุปไว้ว่า จะทำให้สหรัฐขาดดุลมากขึ้น และแทบจะไม่สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ช่วยชดเชยส่วนเสียนี้ได้"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ