ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 231 ต่อ 188 ให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปได้จนถึงวันที่ 19 ม.ค.นี้
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป โดยหากวุฒิสภาให้การอนุมัติต่องบประมาณดังกล่าว และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้ทันในวันนี้ ก็จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายจนถึงวันที่ 19 ม.ค.ปีหน้า และจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า บริษัทหลายแห่งได้ประกาศเพิ่มการลงทุนและเพิ่มค่าจ้างให้กับพนักงาน หลังจากสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทหลายแห่งประกาศว่าจะนำเม็ดเงินที่ประหยัดได้จากมาตรการปรับลดภาษีไปลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มค่าจ้าง และจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงาน หลังสภาคองเกรสให้การรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยบริษัทดังกล่าวรวมถึง เอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล, คอมแคสต์, โบอิ้ง, เอทีแอนด์ที และเวลส์ ฟาร์โก
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้าย สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.2% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3%
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 อยู่ที่ระดับ 3.0%
อย่างไรก็ดี ตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายที่ระดับ 3.2% สำหรับไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557 และดีดตัขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งมีการขยายตัว 3.1%
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 ที่เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่ระดับ 3% หรือมากกว่า เป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 245,000 ราย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
-- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 1.2% ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี LEI ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมถึง คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต, ราคาหุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
-- ผลการนับคะแนนเบื้องต้นของการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญาระบุว่า พรรคที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยมีคะแนนนำพรรคที่สนับสนุนให้แคว้นกาตาลุญญายังคงอยู่กับสเปนต่อไป
การเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญาถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเป็นแคว้นขนาดใหญ่ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อสเปน
ทั้งนี้ ชัยชนะของพรรคที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระอาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาลสเปน และสหภาพยุโรป (EU) โดยในช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศใช้มาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้าปกครองโดยตรงต่อแคว้นกาตาลุญญา พร้อมกับเพิกถอนสิทธิในการปกครองตนเอง หลังจากคณะรัฐบาลคาตาลันในขณะนั้นประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ส่งผลให้นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ถูกตั้งข้อหากบฏ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี และขณะนี้เขากำลังลี้ภัยในเบลเยียม
-- ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีจำนวนสมาชิก 193 ประเทศ จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ตามข้อเสนอของชาติมุสลิม และชาติอาหรับ เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐเพิกถอนการรับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ที่ประชุมลงมติด้วยคะแนนเสียง 128 เสียง เห็นชอบให้การประกาศของสหรัฐในการรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ถือเป็นโมฆะ และไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย ขณะที่ 9 เสียงลงมติคัดค้าน และ 35 เสียงของดออกเสียง
-- บิตคอยน์หลุดระดับ 15,000 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดสหรัฐ โดยร่วงลงกว่า 20% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรปในบ่ายวันนี้ เริ่มด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จาก GfK ของเยอรมนี ซึ่งจะมีการรายงานวันนี้เวลา 14.00 น. ตามเวลาไทย
-- ฝรั่งเศสเตรียมเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) วันนี้เวลา 14.45 น. ตามเวลาไทย
เมื่อปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2560 ขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
-- อังกฤษเตรียมเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) วันนี้เวลา 16.30 น. ตามเวลาไทย
ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ในไตรมาส 3 โดยระบุว่ามีการขยายตัว 0.4% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น และยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายผู้บริโภค แม้เศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากงบประมาณที่อัดฉีดเข้าสู่ภาคครัวเรือนก็ตาม
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.