ผลสำรวจของสถาบัน E-house China R&D Institute แสดงให้เห็นว่า การทำธุรกรรมซื้อขายบ้านใหม่ใน 50 เมืองของจีนลดลง 18% ในปี 2560 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากรัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์
จากสถิติที่จัดทำโดยสถาบัน E-house China R&D Institute พบว่า ตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากปริมาณการซื้อขายบ้านใหม่ของจีนปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.2560 โดยลดลง 13% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 27.37 ล้านตารางเมตร
การทำธุรกรรมซื้อขายบ้านใหม่ในเมืองใหญ่ๆของจีนอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนธ.ค. ร่วงลง 38% และ 28% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี
นายไล่ ฉิน นักวิจัยจากสถาบัน E-house China R&D Institute กล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงของตลาด"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนชะลอตัวลง โดยราคาบ้านในเมืองขนาดใหญ่มีการขยายตัวในอัตราที่ช้าลง หลังจากรัฐบาลออกนโยบายควบคุมการเก็งกำไร
ส่วนการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเพียง 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วง 10 เดือนแรกที่มีการขยายตัว 7.8%
นายไล่กล่าวว่า คาดว่ารัฐบาลท้องถิ่นของจีนจะดำเนินนโยบายรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงด้านอสังหาริมทรัพย์ต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อขายบ้านในเดือนม.ค.ปีนี้ชะลอตัวลงอีก