สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เงินดิจิทัล NEM ที่ถูกโจรกรรมในตลาดสกุลเงินดิจิทัลในโตเกียวเมื่อวันศุกร์นั้น ถูกถ่ายโอนไปยังที่อยู่ดิจิทัล (digital address) 8 แห่ง
แหล่งข่าวระบุว่า เงินดิจิทัล NEM มูลค่าเกือบ 6 หมื่นล้านเยนที่ถูกโจรกรรมนั้น ได้ถูกส่งไปยังที่อยู่ดิจิทัลแห่งหนึ่งหลังพ้นเที่ยงคืนวันพฤหัสบดีไปเพียง 20 นาที ก่อนที่จะมีการกลบร่องรอยด้วยการกระจายเงินไปหลายๆแห่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Coincheck ประกาศว่า NEM จำนวน 5.8 หมื่นล้านเยนได้สูญหายไปจากตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เนื่องจากถูกแฮกเกอร์ลักลอบเจาะเข้าระบบ
การสูญหายเงินดังกล่าว ทำให้ Coincheck ประกาศระงับการซื้อขาย และฝากถอนเงิน NEM ขณะที่มีลูกค้าราว 260,000 คนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ต่อมา Coincheck ประกาศว่า ทางบริษัทจะจ่ายเงินคืนกว่า 4.6 หมื่นล้านเยน (423 ล้านดอลลาร์) ให้แก่ลูกค้าที่สูญเสียสกุลเงิน NEM จากการโจรกรรมของแฮกเกอร์ โดยจำนวนเงินที่ทางบริษัทจ่ายคืนให้นี้ คิดเป็นเกือบ 90% ของมูลค่าความเสียหาย
มีรายงานว่า เงินที่หายไปนั้นถูกเก็บอยู่ในบัญชีเงิน "Hot Wallet" ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และมีความปลอดภัยต่ำ ตรงกันข้ามกับบัญชีเงิน "Cold Wallet" ที่มีการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยในรูปแบบออฟไลน์
วงเงิน NEM ที่สูญหายในครั้งนี้ มากกว่าที่ Mt. Gox ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายบิตคอยน์ในญี่ปุ่น แจ้งว่ามีการสูญหายบิตคอยน์วงเงิน 4.8 หมื่นล้านเยนในปี 2557
เมื่อวานนี้สำนักงานตำรวจนครบาลประจำกรุงโตเกียวเริ่มทำการสอบสวน Coincheck กรณีสกุลเงิน NEM ถูกโจรกรรม โดยเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินการตรวจสอบข้อมูลบันทึกการสื่อสารของเซิร์ฟเวอร์ Coincheck
ทางด้านสำนักงานกำกับการเงิน (FSA) ของญี่ปุ่นออกคำสั่งให้ Coincheck ดำเนินการปรับปรุงธุรกิจ เนื่องจากมองว่าบริษัทไม่มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่เหมาะสม พร้อมกับให้บริษัทยื่นรายงานภายในวันที่ 13 ก.พ. เพื่อแจ้งสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และระบุมาตรการที่บริษัทจะดำเนินการเพื่อยกระดับความปลอดภัยของระบบ