สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์แห่ง
ประเทศอังกฤษ (SMMT) เปิดเผยว่า
ยอดขายรถยนต์เดือนม.ค.ของอังกฤษปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน เนื่องจากความนิยมของ
เครื่องยนต์ดีเซลซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกนั้น เริ่มลดน้อยลง
รายงานระบุว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมในเดือนม.ค.ปรับตัวลง 6.3% สู่ระดับ 163,615 คัน ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีที่แล้ว
ส่วนยอดขายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ลดลง 25.6% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดขายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน เพิ่มขึ้น 8.5% และยอดขายรถยนต์พลังงานสะอาดและพลังงานไฟฟ้า เพิ่มขึ้นเกือบ 24% โดยมีส่วนแบ่งตลาด 5.5%
ทั้งนี้ เชื้อเพลิงดีเซลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษในอากาศ ส่งผลให้เจ้าของรถยนต์อาจถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น หรือถูกจำกัดการใช้งาน หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษตั้งเป้าหมายระยะยาวที่จะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์หรือดีเซลภายในปี 2583 และประกาศในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่า ผู้ขับขี่ที่ซื้อรถเครื่องยนต์ดีเซลจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มในเดือนเม.ย.ปีนี้ ยกเว้นรถยนต์ในครอบครองจะได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ก่อนหน้านี้ SMMT เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของอังกฤษในปี 2560 ร่วงลง 5.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 สู่ระดับ 2.54 ล้านคัน
ทั้งนี้ การลดลงของยอดขายรถยนต์ในปี 2560 นั้น มีสาเหตุจากความไม่แน่นอนของการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมในการเรียกเก็บจากรถยนต์ดีเซล และการที่ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นนับตั้งแต่ที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ SMMT ยังคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในปี 2561 จะลดลง 7%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]