ผู้เชี่ยวชาญชี้นโยบายกีดกันการค้าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 14, 2018 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จอห์น อาร์ เทย์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเซนต์ โธมัส เมืองฮุสตันของสหรัฐ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ พร้อมระบุว่า นโยบายดังกล่าวจะย้อนกลับมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐเอง และจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลกในท้ายที่สุด

นายเทย์เลอร์ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "หากคุณเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า คุณไม่เพียงแต่จะทำลายเศรษฐกิจของตนเองเท่านั้น แต่กำลังทำลายเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่น่ากังวล"

นายเทเลอร์ยังกล่าวถึงกรณีที่บริษัทจีนถูกตั้งกำแพงในการทำธุรกิจในสหรัฐว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ลดลงไปด้วย และเขาเชื่อว่า ระบบโลกาภิวัฒน์เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และทุกประเทศควรให้ความร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจ

การแสดงความเห็นของนายเทย์เลอร์มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ออกมาตรการตรวจสอบการทุ่มตลาด (AD) และการตอบโต้การอุดหนุนตลาด (CVD) ของการนำเข้าท่อเหล็กแบบเชื่อมตะเข็บ (welded pipe) จากหลายประเทศ ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในการดำเนินนโยบายกีดกันการค้าที่ผลักดันโดยคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า การตรวจสอบซึ่งพุ่งเป้าไปที่สินค้านำเข้าจากแคนาดา จีน กรีซ อินเดีย เกาหลีใต้ และตุรกีนั้น ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อตอบสนองคำร้องเรียนของบริษัทหลายแห่งในสหรัฐ

ขณะที่ทางการจีนได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวานนี้ เพื่อขอให้สหรัฐระงับการใช้มาตรการเข้มงวดด้านการค้า โดยนายหวัง เหอจุน หัวหน้าสำนักงานเพื่อการฟื้นฟูและตรวจสอบด้านการค้า ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า "จีนมีความกังวลว่า สหรัฐอาจจะใช้นโยบายกีดกันการค้าต่อผลิตภัณฑ์เหล็กของจีน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ