World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 19 มีนาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 19, 2018 08:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 72.85 จุด หรือ +0.29% แตะที่ระดับ 24,946.51 จุดเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ซึ่งสำรวจโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 102 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 และสูงกว่าระดับ 99.9 ในเดือนก.พ.

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน ในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม

-- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค.นี้

ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.

-- นายอี้ กัง ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางจีน แทนนายโจว เสี่ยวฉวน ที่จะเกษียณในเร็วๆนี้

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เสนอชื่อนายอี้ต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ชุดที่ 13 โดยที่ประชุมจะโหวตให้การรับรองตำแหน่งดังกล่าวในวันนี้

ทั้งนี้ หากที่ประชุม NPC ประกาศรับรองให้นายอี้ขึ้นรับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจีนต้องการเดินหน้านโยบายการเงินในปัจจุบันให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินของจีนมีการเปิดเสรี และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง หลังจากที่ขยายตัวอย่างร้อนแรงในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

-- ข้อมูลเบื้องต้นจากคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลาง (CEC) ของรัสเซียระบุว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย ด้วยคะแนน 75.91% หลังจากที่การนับคะแนนเสร็จสิ้นไปแล้วประมาณ 70%

ขณะที่นายพาเวล กรูดินิน จากพรรคคอมมิวนิสต์ พาร์ตี ออฟ เดอะ รัสเซียน เฟเดอเรชัน ได้คะแนน 13.39% นายวลาดิเมียร์ ไชรินอฟสกี จากพรรคลิเบอรัล เดโมเครติค พาร์ตี ออฟ รัสเซีย ได้คะแนนเพียง 6.34%

-- นายลี กาชิง มหาเศรษฐีพันล้านของฮ่องกงวัย 89 ปี ประธานบริษัทซีเค แอสเสท และซีเค ฮัทชิสัน ได้ประกาศวางมือจากการเป็นผู้นำบริษัททั้งสองแห่งนี้ โดยจะเปิดทางให้นายวิคเตอร์ ลี บุตรชายคนโต ดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทน

ทั้งนี้ นายลีจะประกาศลาออกอย่างเป็นทางการ ในการประชุมสามัญประจำปีวันที่ 10 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ดี เขาจะยังคงให้การช่วยเหลือบริษัทนี้ต่อไป ในฐานะที่ปรึกษาอาวุโส

-- ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ลงมติให้นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 2 พร้อมดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกองทัพกลาง (CMC) ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุม NPC มีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 2,958 เสียง หรือ 99.8%, คัดค้าน 2 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยกเลิกข้อกำหนดที่ว่าประธานาธิบดีจะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัย หรือ 10 ปี ซึ่งจะปูทางให้สี จิ้นผิง สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนต่อไปได้อย่างไม่มีกำหนด

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีฉบับแรกภายหลังจากที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานาธิบดีจีนต่ออีกสมัย เพื่อแต่งตั้งให้นายหลี่ เค่อเฉียง ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีจีนในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 ในช่วงเช้าวานนี้

-- ผลการสำรวจคะแนนนิยมที่มีต่อคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่จัดทำโดยเกียวโด นิวส์ พบว่า คะแนนนิยมร่วงลงไปสู่ระดับ 38.7% ซึ่งลดลง 9.4% จากผลการสำรวจก่อนหน้าที่จัดทำขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเหตุอื้อฉาวอันเนื่องมาจากข้อกล่าวหาเรื่องการช่วยเหลือพรรคพวกของนายอาเบะ

ผู้ตอบรับการสำรวจ 66.1% ระบุว่า นายอาเบะควรจะถูกกล่าวโทษเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการช่วยเหลือพรรคพวกอันเนื่องมาจากกรณีการขายที่ดินในราคาที่ถูกให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งรู้จักกับภรรยาของนายอาเบะ และยังเกี่ยวพันกับรัฐมนตรีกระทรวงคลังด้วยเช่นกัน

การสำรวจทางโทรศัพท์ที่จัดทำขึ้นทั่วประเทศในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่กระทรวงคลังได้ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงได้ดัดแปลงเอกสารการขายที่ดิน รวมทั้งลบชื่ออ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับนายอาเบะและภรรยาออกจากเอกสารด้วยเช่นกัน

-- นายเดวิด มัลพาส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศของสหรัฐ ได้ออกมายอมรับเมื่อวานนี้ว่า ตนได้พูดผิดในประเด็นที่ว่าสหรัฐได้ยกเลิกการเจรจาด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลจีน โดยเขาเปิดเผยว่า ปัจจุบันนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ยังคงมีการหารือในประเด็นเศรษฐกิจกับจีนแต่ไม่ได้ออกสื่อ

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น นายมัลพาสได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลสหรัฐได้ยกเลิกการประชุมเจรจาเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับจีน หรือ Comprehensive Economic Dialogue เนื่องจากทางฝั่งสหรัฐไม่พอใจที่รัฐบาลจีนถอยหลังจากการปฏิรูปตลาด ขณะเดียวกันก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของรัฐบาลจีนที่มีต่อเศรษฐกิจจีนด้วย

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย "Taiwan Travel Act" ซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปยังไต้หวัน และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ไต้หวันเดินทางมาพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐได้เช่นกัน โดยกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ

ทางด้านสถานทูตจีนในสหรัฐได้แสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ โดยกล่าวว่า เนื้อหาที่ระบุในกฎหมาย "Taiwan Travel Act" ถือเป็นการละเมิดนโยบายจีนเดียว และละเมิดต่อแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับที่จีนและสหรัฐเคยประกาศร่วมกันในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นการทำลายรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเพิ่มแรงกดดันระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์พยายามเรียกร้องให้จีนลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ นอกจากนี้ คาดว่าการตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ในกรณีไต้หวันนั้น อาจจะทำให้สหรัฐประสบความยากลำบากในการโน้มน้าวจีนให้ช่วยคลี่คลายความตึงเครียดในประเด็นเกาหลีเหนือ

-- ผู้นำกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อเพิ่มความร่วมมือในการต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรง และสกัดการระดมเงินทุนที่ใช้ในการสนับสนุนขบวนการก่อการร้ายในภูมิภาค โดยการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมสุดยอดระหว่างออสเตรเลียและกลุ่มอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียเมื่อวานนี้

-- ออสเตรเลียได้ประกาศว่า จะให้เงินสนับสนุนวงเงิน 30 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 23.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่โครงการ Smart Cities เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางในเขตพื้นที่เมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้รับมือกับการขยายตัวอย่างสดใสได้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แถลงการณ์ที่ได้มีการเผยแพร่ในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดอาเซียนและออสเตรเลีย ซึ่งจัดขึ้นที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า เมืองต่างๆในอาเซียนเติบโตในระดับที่พิเศษมาก มีประชาชนกว่า 90 ล้านคนคาดหวังว่า จะย้ายเข้ามานเมืองทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2573

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ทางการจีนจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค.ของยูโรโซน

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ธนาคารกลางออสเตรเลียจะเปิดเผยรายงานการประชุม เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก ZEW ทางด้านอังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ