World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 เมษายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 9, 2018 08:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 500 จุดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ทางการจีนประกาศว่า จะตอบโต้สหรัฐไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม และจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างครอบคลุม หากสหรัฐยังคงเดินหน้ากีดกันการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 103,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 193,000 ตำแหน่ง หลังจากที่พุ่งขึ้น 326,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี และเป็นการทรงตัวที่ระดับดังกล่าวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.0%

-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นแตะ 3.1428 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ตลาดต่างคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน จะอยู่ที่ 3.146 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนระบุว่า ปริมาณทองคำสำรองของจีนในเดือนมีนาคม ยังทรงตัวอยู่ที่ 59.24 ล้านออนซ์ ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้นแตะ 7.84 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ที่ 7.80 หมื่นล้านดอลลาร์

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ทวีข้อความล่าสุดระบุว่า จีนจะเป็นฝ่ายที่ยอมอ่อนข้อต่อสหรัฐในประเด็นการค้าที่กำลังร้อนแรง อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ยังเชื่อมั่นว่า ตนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จะยังคงเป็นมิตรที่ดีต่อกัน

ข้อความที่ระบุบนทวิตเตอร์ของปธน.ทรัมป์ระบุว่า จีนจะเป็นฝ่ายยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า และทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงด้านภาษีที่จะเป็นไปในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน

-- ธนาคารดอยซ์แบงก์ประกาศแต่งตั้งนายคริสเตียน เซวิง ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ แทนนายจอห์น ไครอัน หลังจากที่ดอยซ์แบงก์เผชิญกับความไม่แน่นอนทางธุรกิจมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี

ทั้งนี้ ดอยซ์แบงก์มียอดขาดทุนสุทธิ 2.18 พันล้านยูโรในไตรมาส 4/2560 เนื่องจากรายได้โดยรวมปรับตัวลง 19% แตะระดับ 5.71 พันล้านยูโร ส่วนยอดขาดทุนสุทธิทั้งปี 2560 อยู่ที่ 512 ล้านยูโร

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองชิคาโกเมื่อวันศุกร์ว่า เฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อประเมินจากทิศทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

นายพาวเวล กล่าวว่า "ตราบเท่าที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเดินหน้าในทิศทางที่กำลังเกิดขึ้นนี้ต่อไปในภาพรวม การปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะรองรับเป้าหมายเหล่านี้ได้ดีที่สุด" นอกจากนี้ ประธานเฟดยังได้แสดงมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเขาชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐค่อนข้างอยู่ในภาวะที่มีการจ้างงานเต็มที่ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เฟดมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่า เงินเฟ้อจะขยายตัวสู่ 2% ตามเป้าหมาย

-- สำนักงานจัดการเลือกตั้งแห่งชาติของฮังการีเปิดเผยผลการนับคะแนนเบื้องต้นเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่า นายวิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ได้รับชัยชนะเป็นสมัยที่ 3

ทั้งนี้ หลังจากที่การนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จสิ้นประมาณ 81% ซึ่งปรากฎว่า พรรคฟีเดสซ์-เคดีเอ็นพี ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของนายออร์บานได้คะแนนเป็นอันดับ 1 คือ 49.42% ขณะที่พรรคจ็อบบิก ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยม ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 คือ 20% และพรรคเอ็มเอสแซทพี-พี ซึ่งเป็นพรรคสังคมนิยม ได้คะแนนเป็นอันดับ 3 คือ 12.13%

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ.ทั้งสิ้น 2.08 ล้านล้านเยน (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการเกินดุลติดต่อกันเดือนที่ 44

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายได้การลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

-- ตลาดการเงินจับตาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เตรียมเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค. ในวันพุธนี้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ในวันพุธนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดสาขาต่างๆในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส, นายนีล แคชคารี ประธานเฟดสาขาสาขาดัลลัส, นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ตลาดจับตาในวันนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ขณะที่เยอรมนีจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ. และฮาลิแฟกซ์จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.ของอังกฤษ

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) จะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมี.ค. ขณะที่ฝรั่งเศสจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ