World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 30 เมษายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 30, 2018 16:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางแอมเบอร์ รัดด์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ได้ยอมรับการลาออกของนางรัดด์แล้ว

นางรัดด์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยในสมัยของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ได้ลาออกจากตำแหน่งในปี 2559 อันเนื่องมาจากผลการลงประชามติที่ออกมาว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่ต้องการให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit)

--สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย. ลดลงแตะ 51.4 จากระดับ 51.5 ในเดือนมี.ค.

อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัว หากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

--สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้นแตะ 54.8 จากระดับ 54.6 ในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงขยายตัว หากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ

--สถานีโทรทัศน์ของทางการของซีเรียรายงานเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธที่กำหนดเป้าหมายถล่มฐานที่มั่นทางทหารของกองทัพซีเรียในเมืองฮามา เมืองชนบท และจังหวัดอเลปโป เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในครั้งนี้ พร้อมเผยแพร่ภาพควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นมาจากที่เกิดเหตุ โดยระบุว่า "ฐานที่มั่นทางทหารในแถบชนบทของเมืองฮามาและอเลปโป ตกเป็นเป้าของการรุกรานระลอกใหม่ด้วยขีปนาวุธ เมื่อเวลา 22.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น"

--นายหวาง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน จะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ โดยจะออกเดินทางในวันพุธที่จะถึงนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงที่ดีขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี

สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างสำนักข่าวซินหัวว่า การเดินทางเยือนของนายหวางเป็นไปตามคำร้องขอของนายรี ยอง โฮ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ภายหลังการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีมูน แจ อิน แห่งเกาหลีใต้ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

--นายทาโร่ โคโนะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะจับตาดูมาตรการและท่าทีของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด โดยนายคิมเตรียมเข้าประชุมสุดยอดร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนหน้า

นายโคโนะกล่าวกับสื่อมวลชนระหว่างเดินทางเยือนจอร์แดนว่า "เราจะจับตาดูประเด็นที่เกาหลีเหนือและสหรัฐหารือกันอย่างใกล้ชิด พร้อมมาตรการและท่าทีของเกาหลีเหนือภายหลังจากนั้น"

--สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวลงในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังการผลิตรถยนต์และเครื่องจักรชะลอตัวลง

รายงานของสำนักงานสถิติระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมซึ่งรวมถึงการผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและก๊าซ หดตัวลง 2.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. หดตัวลง 4.3% หลังจากที่ร่วงลง 6.8% ในเดือนก.พ.

--แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ในการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กับนายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีของอิหร่าน เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อปกป้องข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านเมื่อปี 2558

ในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์นานนับชั่วโมง นายมาครองได้แสดงความคาดหวังว่าจะสามารถรักษาข้อตกลงดังกล่าว และมีการหารือเพิ่มเติมในอีก 3 ประเด็นสำคัญ โดยได้ระบุถึงโครงการพัฒนาขีปนาวุธของอิหร่าน และกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่านหลังปี 2568 รวมถึงวิกฤตความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง

--นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐมีความกังวลเป็นอย่างมากต่อกรณีที่อิหร่านพยายามขยายกองกำลังในตะวันออกกลาง

"เรายังคงกังวลต่อการที่อิหร่านยกระดับภัยคุกคามต่ออิสราเอลและต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง" นายปอมเปโอกล่าว

--นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้มีความเห็นร่วมกันว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ควรใช้มาตรการทางการค้าต่อสหภาพยุโรป (EU) และทาง EU ควรเตรียมความพร้อมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน

นายสเตฟเฟน ไซเบิร์ต โฆษกรัฐบาลเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า นางแมร์เคิลและนายมาครองได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และนางแมร์เคิลได้โทรศัพท์หานางเมย์เมื่อวานนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับผลการประชุมระหว่างนางแมร์เคิลและนายมาครองกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

--สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือจะปรับเวลามาตรฐานของประเทศให้เร็วขึ้นกว่าเวลาในปัจจุบัน 30 นาที โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.นี้เป็นต้นไป

สภาบริหารสูงสุดของสภาประชาชนสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือได้ประกาศออกกฎษฎีกา โดยระบุให้มีการ "ปรับเวลามาตรฐานของเกาหลีเหนือขึ้นใหม่" เพื่อให้เวลาของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีความสอดคล้องกัน และขอให้คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรการดังกล่าวไปบังคับใช้

--เมย์แบงก์ อินเวสเมนต์ แบงก์ รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยของมาเลเซีย คาดการณ์ว่า สถานการณ์ความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางและพื้นที่อื่นๆนั้น อาจทำให้ตลาดน้ำมันเกิดความผันผวน และส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

เมย์แบงก์ เปิดเผยว่า เมื่อประเมินจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตะวันออกกลางอาจเป็นอีกปัจจัยกระตุ้นราคาน้ำมัน โดยเดือนพ.ค.เป็นเดือนที่ต้องจับตามองในเรื่องราคาน้ำมัน เนื่องจากเป็นเดือนที่สหรัฐจะตัดสินใจว่าจะกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งหรือไม่

--สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนามเปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกของเวียดนามในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.ปีนี้อยู่ที่ระดับ 7.38 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของภาคธุรกิจภายในประเทศ พุ่งขึ้น 17.9% สู่ระดับ 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. ขณะที่มูลค่าการส่งออกของภาคธุรกิจที่ลงทุนโดยต่างชาติ เพิ่มขึ้น 19.4% แตะระดับ 5.35 หมื่นล้านดอลลาร์

--สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ลดลง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%

อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0%

--กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้จะเริ่มนำเครื่องกระจายเสียงที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ออกจากพื้นที่ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ ภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความราบรื่น

ที่ผ่านมา เครื่องกระจายเสียงดังกล่าวถูกใช้งานโดยมีจุดประสงค์เพื่อการตอบโต้เครื่องกระจายเสียงของฝั่งเกาหลีเหนือที่ตั้งอยู่บริเวณเขตปลอดทหาร (MDL)

--นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการให้สัตยาบันรับรองปฏิญญาปันมุนจอมโดยเร็ว พร้อมวอนขอเสียงสนับสนุนจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในรัฐสภา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายมูนได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในระหว่างประชุมร่วมกับเลขาธิการอาวุโสฝ่ายต่างๆ ประจำทำเนียบประธานาธิบดีในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากการพบปะกันครั้งประวัติศาสต์กับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อวันศุกร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ