คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยแถลงการณ์หลังการประชุมระบุว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยได้ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และการปรับตัวของเศรษฐกิจได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจใช้มาตรการควบคุมบริษัทของจีนในการขายอุปกรณ์ด้านการสื่อสารในสหรัฐ
-- หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาออกคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อควบคุมบริษัทจีนบางรายในการจำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมในสหรัฐ
รายงานข่าวระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจมีขึ้นโดยมีเป้าหมายที่บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้เข้าตรวจสอบบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เพื่อหาหลักฐานว่า หัวเว่ยได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่ห้ามไม่ให้มีการขายสินค้าให้กับอิหร่านหรือไม่
ขณะเดียวกัน หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐยังได้มีคำสั่งให้บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ได้แก่ AT&T ยกเลิกการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ผลิตโดยบริษัทหัวเว่ย โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
-- เสี่ยวหมี่ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน นำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเสี่ยวหมี่ถือเป็นบริษัทใหญ่รายแรกที่นำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกงภายใต้กฎระเบียบใหม่ และคาดว่าจะเป็นการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกนับตั้งแต่ปี 2557
ทั้งนี้ แม้บริษัทไม่ได้ระบุว่าต้องการจะระดมทุนเป็นจำนวนมากเท่าใดในการออกหุ้น IPO แต่มีการคาดการณ์ว่า เสี่ยวหมี่จะระดมทุนได้อย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะทำให้มูลค่าทางธุรกิจของเสี่ยวหมี่อยู่ในระดับสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์
-- นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า เฟซบุ๊กเตรียมให้บริการหาคู่สำหรับผู้ใช้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวของเฟซบุ๊กนั้น สามารถจับคู่ผู้ใช้บริการกับผู้ที่ยังไม่ได้เป็น friend ที่มีความสนใจต่องานอีเวนท์ หรือสถาบันใดๆ ร่วมกัน ซึ่งภายใต้ฟีเจอร์ดังกล่าวผู้ใช้งานจะสร้างโปรไฟล์แยกสำหรับการหาคู่ซึ่งเครือข่าย friend จะไม่สามารถเห็นข้อมูลดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นายซัคเคอร์เบิร์กไม่ได้เปิดเผยว่าเฟซบุ๊กจะเริ่มให้บริการจับคู่ดังกล่าวเมื่อใด
-- นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือโดยไม่รอช้า
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะยุติโครงการผลิตอาวุธทำลายล้างสูงของเกาหลีเหนืออย่างถาวร ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ โดยให้มีการดำเนินการดังกล่าวโดยไม่รอช้า" นายปอมเปโอกล่าวในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีนเปิดเผยว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ ก่อนที่การประชุมการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศจะเปิดฉากขึ้นในกรุงปักกิ่งวันนี้ พร้อมกล่าวว่า จีนจะไม่ยอมรับเงื่อนไขเบื้องต้นใดๆก่อนการเจรจา อาทิ การยกเลิกเป้าหมายการผลิตในระยะยาว หรือลดยอดขาดดุลการค้าลง 1 แสนล้านดอลลาร์
-- เศรษฐกิจโลกเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากที่ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝายจัดซื้อ (PMI) จากกว่า 40 ประเทศได้สนับสนุนคำกล่าวของนักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกนที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 228,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือนเม.ย.
-- สื่ออิหร่านรายงานว่า จำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้เพิ่มขึ้นเป็น 105 ราย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.2 แมกนิจูดที่เมืองซีซาค ในจังหวัดโคห์กิลูโบเยเราะห์มัด ทางตะวันตกของอิหร่าน เมื่อวานนี้เวลา 13.08 น.ตามเวลาไทย
สำหรับศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่ระดับความลึก 8 กิโลเมตร โดยมีพิกัดอยู่ที่ 30.834 ละติจูดองศาเหนือ และ 51.559 ลองติจูดองศาตะวันออก
-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.4% ในไตรมาสแรก โดยลดลงจากระดับ 0.7% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว
เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 2.5% ในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ ยูโรสแตทยังเปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนทรงตัวในเดือนมี.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 8.5%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าจับตาในวันนี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนมี.ค.ของออสเตรเลีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จาก Markit/CIPS ของอังกฤษ, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนเม.ย.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. ของสหภาพยุโรป ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ไฉซินจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.ของจีน ขณะที่มาร์กิตจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการของฝรั่งเศส เยอรมนี และอียู ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.