ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ภาคการผลิตในประเทศกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้นในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 2
ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในกลุ่มอาเซียน ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 51.0 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 50.1 ในเดือนมี.ค.
รายงานดังกล่าวระบุว่า "ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ ยอดส่งออก และอัตราการจ้างงานที่ขยายตัวสูงขึ้นได้ช่วยหนุนดัชนี PMI ภาคการผลิตในกลุ่มอาเซียนขยายตัว แม้สต็อกสินค้าคงคลังจะเริ่มปรับตัวลดลงก็ตาม"
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า 5 ใน 7 ประเทศที่ได้รับการสำรวจครั้งนี้ มี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 ซึ่งดีดตัวขึ้นจากจำนวน 4 ประเทศในเดือนมี.ค. โดยประเทศดังกล่าวได้แก่เมียนมา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตในประเทศไทยและมาเลเซียยังคงหดตัว
อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นาร์ด อาว นักเศรษฐศาสตร์จากไอเอชเอส มาร์กิต กล่าวว่า แม้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น แต่อุปสงค์ควรต้องดีดตัวขึ้นรวดเร็วกว่านี้ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
"ประการแรก ยอดขายยังเติบโตไม่รวดเร็วพอที่จะทดสอบประสิทธิภาพของภาคการผลิตในภูมิภาค ขณะตลาดแรงงานยังคงได้รับแรงกดดัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการสร้างงานในอนาคตอาจปรับตัวลดลง ประการที่สองคือ บริษัทต่างๆยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง เพราะแม้ว่ามียอดสั่งซื้อมากขึ้น แต่สินค้าคงคลังและสินค้าที่ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้วเริ่มปรับตัวลงลด และประการที่สาม แม้ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจจะเป็นไปในเชิงบวก แต่ก็เป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เราได้มีการสำรวจมา" นายอาวกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน