ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและบรรดาประเทศคู่ค้า ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป (EU) อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-- ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้คงระดับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับเตือนว่า เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ซึ่งรวมถึงนโยบายกีดกันการค้าที่หลายประเทศกำลังนำมาใช้ในขณะนี้
ธนาคารโลกได้เปิดเผยในรายงาน "Global Economic Prospects" เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในปี 2561 ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3% ในปี 2562 โดยตัวเลขดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
-- นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในวันที่ 12 มิ.ย.จะจัดขึ้นที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์
"เราขอขอบคุณสิงคโปร์ในความเอื้อเฟื้อที่ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดครั้งนี้" นางแซนเดอร์สระบุในทวิตเตอร์
-- รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศให้พื้นที่ส่วนหนึ่งของเกาะเซนโตซาเป็น"เขตความมั่นคงพิเศษ"ในช่วงวันที่ 10-14 มิ.ย.
การประกาศดังกล่าว ทำให้มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เกาะเซนโตซาจะเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในวันที่ 12 มิ.ย.
ในช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถตรวจค้นร่างกายของผู้ที่เข้าไปในเขตดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลจะเผยแพร่รายการสิ่งของต้องห้ามขณะเข้าสู่เขตดังกล่าว ซึ่งได้แก่ อาวุธ, โดรน, ลำโพง, ธงขนาดใหญ่ และแผ่นป้ายต่างๆ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ขยายตัว 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8% โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้น และยังช่วยสนับสนุนมุมมองของธนาคารกลางออสเตรเลียที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจะแข็งแกร่งขึ้น
หากเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 1 ของออสเตรเลียขยายตัว 1% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.9%
-- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.7 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 6.6 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน 6.7 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มทำการสำรวจตัวเลขดังกล่าวในเดือนธ.ค.2543
นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.6 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. จากระดับ 5.5 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ตลาดแรงงานสหรัฐกำลังเข้าใกล้ระดับการจ้างงานเต็มศักยภาพ ขณะที่อัตราการว่างงานแตะระดับ 3.8% ซึ่บเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี
-- ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติแต่งตั้งนางมาเรีย เฟอร์นันดา เอสปิโนซา การ์เซส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการต่างประเทศและการเคลื่อนย้ายทรัพยากรมนุษย์ของเอกวาดอร์ เป็นประธานสมัชชาใหญ่คนใหม่ หลังสามารถเอาชนะนางแมรี เอลิซาเบธ ฟลอเรส เฟลค ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฮอนดูรัสประจำสหประชาชาติ ด้วยคะแนนเสียง 128-62 เสียง
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐได้เจรจาในทางลับกับซาอุดิอาระเบีย และสมาชิกบางประเทศในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ สหรัฐได้เรียกร้องดังกล่าว หลังจากที่ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีนโยบายน้ำมันของโอเปก รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย. รวมถึงสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่น ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย. ของออสเตรเลีย ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนเดือนพ.ค. ของจีน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย. ของเยอรมนี และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ