นายไต้ เจิ้น อู ประธานบริษัท ชาร์ป คอร์ป เปิดเผยในวันนี้ว่า ชาร์ปตั้งเป้าที่จะทำให้ธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ซึ่งทางบริษัทซื้อกิจการมาจากโตชิบา คอร์ปนั้น สามารถทำกำไรได้ภายใน 2 ปีนี้
"เราจะทำให้ธุรกิจพีซีสามารถทำกำไรได้ในเวลา 1-2 ปีนี้ และเราจะพลิกฟื้นการลงทุนของเรา" นายไต้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดและสื่อสำนักอื่นๆ หลังจากที่ชาร์ปเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะเข้าซื้อธุรกิจพีซีจากโตชิบา ในวงเงิน 4 พันล้านเยน หรือประมาณ 36.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ นายไต้ยังกล่าวด้วยว่า เขาต้องการทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไปจนกว่าแผนธุรกิจในระยะกลางของชาร์ปจะสำเร็จลุล่วงในเดือนมี.ค. 2563 โดยเขาจะนั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะมีผลในวันที่ 20 มิ.ย.นี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายไต้ ซึ่งหงไห่ พรีซิชั่น อินดัสทรี บริษัทแม่ของชาร์ป ได้มอบหมายให้เข้ามาดูแลธุรกิจในปี 2559 นั้น เป็นผู้นำในการทำให้ชาร์ปสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีในปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายไต้กล่าวว่า เขาตั้งใจที่จะพลิกฟื้นธุรกิจพีซีในญี่ปุ่นภายในเดือนมี.ค. 2563 ก่อนที่จะขยายไปยังต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ยอดขายพีซีของโตชิบาทรุดฮวบลงท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดจากจีนและผู้ผลิตรายอื่นๆ รวมทั้งความนิยมอย่างแพร่หลายของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
ทั้งนี้ หงไห่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตไอโฟนป้อนให้กับบริษัทแอปเปิล หรือที่รู้จักในชื่อทางการค้าว่า ฟ็อกซ์คอนน์นั้น ได้เข้าซื้อกิจการของชาร์ปในเดือนส.ค. 2560 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นถูกซื้อกิจการโดยบริษัทต่างชาติ