World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 15 มิถุนายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 15, 2018 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้อนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคณะทำงานของปธน.ทรัมป์เตรียมเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวันนี้

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประชุมหารือกับที่ปรึกษาทางการค้าของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ และมีขึ้นไม่นานหลังจากทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการปกป้องเทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญาจากพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เหมาะสมของจีน โดยระบุว่าในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ สหรัฐจะเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25%

--ทำเนียบขาวเปิดเผยวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ยกประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นมาหารือกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในระหว่างการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า "ปธน.ทรัมป์ได้ยกประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือขึ้นมาหารือในที่ประชุม ดังที่ท่านปธน.ได้แจ้งแก่สาธารณชนให้รับทราบไปก่อนหน้านี้"

--ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุก ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นในวันนี้ โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย แม้ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOJ มีมติคงวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระยะยาว เคลื่อนไหวที่ระดับ 0% และได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% โดยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากสถาบันการเงินที่สำรองเงินฝากไว้กับ BOJ

--แม้ภาพลักษณ์ของสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งตั้งอยู่ในนครนิวยอร์กของสหรัฐจะดูจริงจังและดูจริงจังตลอดเวลา แต่บรรดาทูตของประเทศต่างๆประจำ UN ต่างก็พร้อมใจกันนั่งชมพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกประจำปี 2561 เมื่อคืนนี้ ซึ่งรวมถึงนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำ UN ที่เชิญชวนเพื่อร่วมงานใส่เสื้อฟุตบอลโลกและดื่มเบียร์ร่วมกันในระหว่างชม

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาเอกอัครราชทูต พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวอีกเกือบ 100 คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากซาอุดิอาระเบีย, คาซัคสถาน, อาร์เจนตินา, เกาหลีใต้, เปรู, โคลัมเบีย, ฝรั่งเศส, ตูนีเซีย, ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ต่างก็ได้รับเชิญให้มาร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดังกล่าว

--สำนักงานสถิติแห่งเกาหลีใต้เปิดเผยว่า อัตราว่างงานในเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.4% แตะที่ระดับ 4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี โดยมีสาเหตุมาจากการลดลงของตัวเลขจ้างงานในภาคค้าปลีก ภาคการผลิต และภาคการศึกษา

ส่วนจำนวนประชาชนที่มีงานทำในเดือนพ.ค. อยู่ที่ระดับ 27.06 ล้านคน เพิ่มขึ้น 72,000 คนจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

--นายแฮรี่ แฮร์ริส เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ แสดงจุดยืนสนับสนุนการหยุดซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ หลังจากการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือจบลง

นายแฮร์ริส ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว กล่าวว่า "บรรยากาศทั้งหมดได้เปลี่ยนไปแล้ว เราควรหยุดการซ้อมรบครั้งใหญ่ เพื่อดูว่าผู้นำเกาหลีเหนือจริงจังกับการทำตามข้อตกลงหรือไม่"

--นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้แถลงเตือนในวันนี้ว่า นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อระบบการค้าโลก รวมถึงทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐ และเป็นเหตุให้นานาประเทศออกนโยบายโต้กลับ

นางลาการ์ดกล่าวว่า นโยบายภาษีของสหรัฐจะทำลายเศรษฐกิจในวงกว้าง เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้กระตุ้นให้ประเทศคู่ค้ายักษ์ใหญ่อย่างแคนาดาและเยอรมันออกมาตรการโต้กลับสหรัฐ

นอกจากนี้ IMF ยังมีมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในช่วงการนำของรัฐบาลปธน.ทรัมป์อาจขยายตัวไม่ได้ดีเท่าที่ควร

--นักวิเคราะห์จากเว็บไซต์ CompareCards.com เปิดเผยว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมล่าสุดนั้น จะส่งผลให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ารวม 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

CompareCards.com ระบุว่า ผู้ถือบัตรเครดิตของสหรัฐ ซึ่งในปัจจุบันมียอดหนี้สินรวมกันราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ตามข้อมูลของเฟดนั้น จะต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมกัน 2.2 พันล้านดอลลาร์ เมื่ออัตราดอกเบี้ยถูกปรับขึ้น 0.25%

--ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ขานรับการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ ระบุเป็น "ก้าวแรกที่สำคัญ" ต่อการแก้ไขปัญหาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ พร้อมกันนี้ ผู้นำจีนยังได้สนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่าง "ค่อยเป็นค่อยไป" จนนำไปสู่การทำข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์

ประธานาธิบดีจีนแสดงความเห็นดังกล่าวในระหว่างการพูดคุยกับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งนับเป็นถ้อยแถลงอย่างเป็นการครั้งแรกของปธน.สี ตั้งแต่ที่การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับนายคิม จอง อึน ในสิงคโปร์ เสร็จสิ้นลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

--นายดาร์เมนดรา ปราธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของอินเดียได้พบกับคณะทูตจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประจำประเทศอินเดียในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยการประชุมครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญ เนื่องจากราคาน้ำมันในอินเดียได้พุ่งสูงขึ้นจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งว่า ระหว่างการประชุม นายปราธานในแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะในอินเดีย

--ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปี 2561 หลังจากที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าคาดการณ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ธนาคารกลางฝรั่งเศสได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ลงเหลือ 1.8% เมื่อเทียบกับระดับคาดการณ์ที่ 2% เมื่อสามเดือนก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ