Spotlight: ผู้เชี่ยวชาญเผยสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้ามีแต่จะบั่นทอนธุรกิจสหรัฐเอง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 18, 2018 11:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐอนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 25% วงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึงมาตรการจำกัดการนำเข้านั้น มีแต่จะสร้างความเสียหายให้กับบริษัทในสหรัฐ เช่นเดียวกับกรอบการค้าระหว่างประเทศ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษี 25% เพื่อตอบโต้การที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ

สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) แถลงว่า อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ต่อสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีน โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บภาษีในวันที่ 6 ก.ค. ขณะที่สินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา

ด้านรัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเผยบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 25% โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐสภาจีน และคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการศุลกากรแห่งรัฐสภาจีน ได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์

*กระทบธุรกิจสหรัฐ

แมทธิว เชสล็อค เทรดเดอร์หุ้นจาก Virtu Financial เปิดเผยว่า สิ่งที่ควรจับตาคือความเคลื่อนไหวที่ว่าจะมีมาตรการเก็บภาษีนำเข้ารอบที่ 2 หรือไม่ โดยเขามองว่า ตลาดน่าจะมีความวิตกกังวลมากขึ้นหากมีมาตรการเก็บภาษีนำเข้ารอบที่ 2 เพราะนั่นหมายความว่าทั้งสองประเทศไม่ได้อยู่ในระยะเจรจาอีกต่อไป และมาตรการดังกล่าวจะมีการบังคับใช้จริง

เชสล็อคมองว่า ในระยะยาวแล้วมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการก่อสร้าง ยานยนต์ และการเกษตร

ขณะเดียวกัน หลายๆสมาคมในแวดวงอุตสาหกรรมสหรัฐ ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองการค้าของรัฐบาลสหรัฐ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาคมการเกษตรทั่วสหรัฐ ซึ่งรวมถึงสมาคมถั่วเหลืองอเมริกัน (ASA) สมาคมผู้เพาะปลูกข้าวสาลีแห่งสหรัฐ และสมาคมผู้เพาะปลูกข้าวโพดแห่งสหรัฐ ได้ยื่นคำร้องขอต่อสภาคองเกรสให้ระงับมาตรการเก็บภาษีนำเข้าดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางสมาคมข้ได้ระบุในแถลงการณ์ร่วมหัวข้อ "เราต้องการค้าขายไม่ใช่การเก็บภาษีนำเข้า" (We Need Trade Not Tariffs) ว่า "หลังจากที่ได้มีการติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลสหรัฐเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อขอข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับอนาคตของการเก็บภาษีนำเข้า บัดนี้กลุ่มผู้ผลิตภาคการเกษตร รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆที่จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออกไปยังจีน กำลังขอความช่วยเหลือจากสภาคองเกรส"

*บิดเบือนระเบียบการค้าโลก

นักวิเคราะห์หลายรายได้ออกมาเตือนว่า มาตรการจากรัฐบาลสหรัฐที่เป็นไปในลักษณะคุ้มครองการค้ามากขึ้นนั้น จะเข้ามาบิดเบือนระเบียบการค้าโลก

เอ็ดวาร์ด อัลเดน นักวิชาการอาวุโสจากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นมีเสียงที่แตกต่างกันไป โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐ มีจุดยืนคัดค้านสงครามการค้า ขณะที่ปธน.ทรัมป์มีจุดยืนเรื่องนโยบายการค้าที่หนักแน่นตลอดเวลาว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เกิดขึ้น

เกร็ก วัลเลียร์ หัวหน้านักกลยุทธ์โลกจาก Horizon Investments เปิดเผยว่า สงครามการค้าอาจส่งผลให้สหรัฐอเมริกาต้องเหินห่างไปจากเวทีโลก

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาโต้แย้งความเชื่อที่ว่าสหรัฐกำลังถูกประเทศอื่นเอาเปรียบอันเป็นผลจากการขาดดุลการค้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ปธน.ทรัมป์ใช้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐ

นายกรีนสแปน ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวซีเอ็นบีซีว่า สหรัฐใกล้จะเข้าสู่สงครามการค้า ขณะที่ความเชื่อที่ว่าประเทศอื่นกำลังเอาเปรียบสหรัฐนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ

นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ระบุในรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า การที่รัฐบาลสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่พร้อมจำกัดการนำเข้านั้น จะส่งผลให้ทั่วโลกขยับออกจากระบบการค้าที่เปิดกว้าง ยุติธรรม และมีระเบียบกำกับดูแล โดยจะส่งผลเสียต่อทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐและประเทศคู่ค้า

บทวิเคราะห์โดยโดยหวัง เหวิน และหยาง ชือหลง

สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ