World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 26, 2018 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การทำสงครามการค้าอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศแผนการออกมาตรการจำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีนเท่านั้น ขณะที่หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนย้ายฐานการผลิตออกจากสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษี

-- บริษัทฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ แถลงว่า ทางบริษัทจะโยกฐานการผลิตออกจากสหรัฐสำหรับการส่งออกมอเตอร์ไซค์ไปยังสหภาพยุโรป (EU) เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการเก็บภาษีจาก EU ต่อมอเตอร์ไซค์ที่นำเข้าจากสหรัฐ หลังจากที่ EU ประกาศจัดเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงมอเตอร์ไซค์ เพื่อตอบโต้มาตรการของสหรัฐในการจัดเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจาก EU

ฮาร์ลีย์-เดวิดสันประเมินว่ามาตรการเก็บภาษีของ EU จะทำให้มอเตอร์ไซค์ของบริษัทมีต้นทุนเฉลี่ยต่อคันเพิ่มขึ้น 2,200 ดอลลาร์ แต่บริษัทจะไม่ขึ้นราคาขายส่งหรือขายปลีกต่อดีลเลอร์เพื่อชดเชยต้นทุนเกี่ยวกับภาษีดังกล่าว นอกจากนี้ ฮาร์ลีย์-เดวิดสันยังคาดการณ์ว่า มาตราการภาษีของ EU จะทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 90-100 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ปัจจุบัน ฮาร์ลีย์-เดวิดสันมีโรงงานประกอบมอเตอร์ไซค์นอกสหรัฐจำนวน 2 แห่งคือบราซิลและอินเดีย ขณะที่กำลังสร้างโรงงานในไทยในเขตนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง

-- ทางการจีน และสหภาพยุโรป (EU) ให้คำมั่นร่วมมือกันต่อต้านมาตรการกีดกันทางการค้าหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า โดยจีน และ EU ระบุว่า การดำเนินมาตรการเพียงฝ่ายเดียวเสี่ยงต่อการผลักดันเศรษฐกิจโลกให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เปิดเผยหลังจากพบปะหารือกับนายเจอร์คี คาไทเนน รองประธาน EU ในกรุงปักกิ่ง วานนี้ โดยกล่าวว่า ทางการจีนและ EU เห็นพ้องที่จะปกป้องระบบการค้าพหุภาคีร่วมกัน โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ทั้งจีนและ EU เตรียมที่จะเผชิญกับภัยคุกคามด้านภาษีของปธน.ทรัมป์

นอกจากนี้ นายหลิวยังกล่าวด้วยว่า "การกระทำเพียงฝ่ายเดียวกำลังเพิ่มขึ้น และความตึงเครียดทางการค้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ จีน และ EU ต่อต้านการกระทำเพียงฝ่ายเดียวและการปกป้องทางการค้า ตลอดจนเห็นตรงกันว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลทำให้ภาวะเศรษฐกิจเกิดความถดถอยและสร้างความวุ่นวายให้กับเศรษฐกิจโลก"

-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ทวีตข้อความระบุว่า สหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์จำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีน หากพบว่าประเทศใดละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ปธน.ทรัมป์วางแผนที่จะห้ามบริษัทของจีนเข้าลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีของสหรัฐ และจะห้ามบริษัทสหรัฐส่งออกเทคโนโลยีให้กับจีน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง

นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยังรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อห้ามไม่ให้บริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นอยู่อย่างน้อย 25% เข้าซื้อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ โดยสหรัฐเตรียมประกาศมาตรการดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ เพื่อตอบโต้นโยบาย"เมดอินไชน่า 2025" ของจีนที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตขู่ทุกประเทศทั่วโลกให้ยุติการตั้งกำแพงการค้าต่อสินค้าสหรัฐ มิฉะนั้นจะต้องพบกับมาตรการตอบโต้จากสหรัฐ

ข้อความในทวิตเตอร์ของผู้นำสหรัฐระบุว่า "สหรัฐขอยืนกรานให้ทุกประเทศทั่วโลกที่ได้ตั้งกำแพงการค้า และเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ ให้ยกเลิกกำแพงการค้า และการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว มิฉะนั้นจะต้องเผชิญมากกว่ามาตรการตอบโต้จากสหรัฐ โดยการทำการค้าจะต้องเป็นธรรม และไม่ใช่การดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว"

-- เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เห็นพ้องต่อแนวทางฟื้นฟูสายด่วนการสื่อสารทางการทหารในทะเลญี่ปุ่นและทะเลเหลืองโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากสายด่วนการสื่อสารทางการทหารในทะเลญี่ปุ่นได้รับความเสียหายจากการเกิดไฟป่าในปี 2553 ขณะที่สายด่วนการสื่อสารทางการทหารในทะเลเหลืองสามารถใช้การได้เพียงบางส่วน

ทั้งสองประเทศเปิดใช้งานสายการสื่อสารฝั่งตะวันตกเป็นครั้งแรกในปี 2545 และเปิดสายสื่อสารฝั่งตะวันออกในปีถัดมา แต่หลังจากนั้น ทางการเกาหลีเหนือยุติการใช้งานของสายการสื่อสารฝั่งตะวันตกในปี 2559 หลังจากเกาหลีใต้สั่งปิดเขตนิคมอุตสาหกรรมแคซอง ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ทำการซ่อมสายโทรศัพท์ในเดือนม.ค. ก่อนหน้าที่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวจะเปิดฉากขึ้น ขณะที่สายการสื่อสารฝั่งตะวันออกถูกระงับการใช้งานในปี 2554 เนื่องจากความตึงเครียดทางการทหารและการเกิดไฟป่าในปี 2557

-- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่า หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของอินโดนีเซียเข้าปะทะและจับกุมกลุ่มก่อการร้ายในจังหวัดชวาตะวันตก ก่อนที่พวกเขาจะก่อเหตุโจมตีในปลายเดือนนี้ โดยได้สังหารกลุ่มติดอาวุธ 2 ราย และจับกุมตัว 11 ราย ขณะที่พวกเขาวางแผนก่อเหตุโจมตีหลายครั้งที่หน่วยเลือกตั้งในช่วงที่มีการเลือกตั้งสิ้นเดือนนี้

-- ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย re-lending rate 0.50% สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม เพื่อลดภาระทางการเงินสำหรับบริษัทขนาดเล็ก นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนจะเพิ่มโควตาการได้รับเงินกู้ re-lending และ rediscount สำหรับบริษัทขนาดเล็ก โดยเพิ่มขึ้น 1.50 แสนล้านหยวน

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจะปรับปรุงกลไกในการสนับสนุนการออกหุ้นกู้ของบริษัทขนาดเล็ก รวมทั้งสนับสนุนสถาบันการเงินให้ทำการออกหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากเงินกู้ของบริษัทขนาดเล็ก โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดสินเชื่อมากกว่า 1 แสนล้านหยวน

ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) 0.50% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ขณะที่มีเป้าหมายสนับสนุนโครงการสว็อปหนี้ต่อทุน และเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กให้สามารถระดมเงินทุนได้มากขึ้น

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 6.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 689,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากแตะระดับ 646,000 ยูนิตในเดือนเม.ย.

โดยยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ได้รับอานิสงส์จากยอดขายบ้านทางภาคใต้ของสหรัฐที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 11 ปี ขณะที่ยอดขายในภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือร่วงลง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% สู่ระดับ 667,000 ยูนิตในเดือนพ.ค.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ขณะที่ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.โดย S&P/Case-Shiller และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนจะเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ด้านฝรั่งเศสเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค. รวมถึงสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ